Home ข้อคิดสอนใจ 6 เทคนิคเก็บเงินให้อยู่ สู่ความมั่นคง..ในการใช้ชีวิตในยุคนี้

6 เทคนิคเก็บเงินให้อยู่ สู่ความมั่นคง..ในการใช้ชีวิตในยุคนี้

4 second read
0
485

หลายคน อาจมองว่าวิธีออมเงินเป็นสิ่งที่พูดง่ายแต่ทำยาก เพราะไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน สุดท้าย ก็เผลอเอาเงินนั้นไปใช้จ่ายทุกที แต่ความจริงแล้วการเก็บเงินนั้นไม่ใช่เรื่องยาก

หากแต่ขึ้นอยู่กับวินัยของผู้เก็บ ถ้าสามารถควบคุมตัวเองได้ การจะมีเงินก้อนใหญ่ ในอนาคตก็ไม่ใช่แค่ฝัน วันนี้เรารวบรวมเคล็ดวิธีออมเงินมาให้ทุกคนได้ลองทำตามกันถึง 6 วิธี!

ต่อให้เป็นคนเก็บเงิน ยากแค่ไหน ก็สามารถมีเงินออมมากขึ้นได้ มาดูกันเลย!

อยากเก็บเงินให้อยู่? มาดูวิธีออมเงินตามนี้เลย!

สำหรับ คนส่วนใหญ่ เมื่อมีเงินอยู่ในมือแล้วมักจะคิดกันว่า “ใช้ไปก่อนแล้วสิ้นเดือน เหลือเท่าไหร่ค่อยเก็บ” แต่รู้ตัวอีกทีพอเข้ากลางเดือนเงินก็แทบไม่เหลือแล้ว

สุดท้ายก็ไม่ได้เก็บเงินสักบาท ยิ่งเป็นวัยทำงานที่จะต้องแบกรับภาระ ค่าใช้จ่ายมากมาย ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ เงินที่จะต้องส่งทางบ้าน ฯลฯการจะมีเงินเหลือเก็บ

ตอนสิ้นเดือนได้นั้น ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ แต่ความจริงแล้วพฤติกรรมนี้สามารถปรับปรุงได้ง่ายๆ หากมีวิธีออมเงินดีๆ และใช้ได้ผลจริง โดยการทำตามเทคนิคนิคดังต่อไปนี้!

1. เก็บก่อนใช้

ถ้าคิดว่าตัวเอง ไม่สามารถเหลือเกินไว้ เก็บตอนสิ้นเดือนได้ วิธีออมเงินวิธีแรกก็คือ หักดิบเก็บเงินก่อนใช้ไปเลย! ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณได้เงินเดือนมาแล้ว ให้คำนวณค่าใช้จ่ายที่มี

และประมาณเงินที่สามารถเก็บได้ในเดือนนั้น แล้วแยกเงินส่วนที่เก็บได้ออกมา ต่างหากทันทีโดยอาจ โ อ น ไปยังอีกบัญชีธนาคารหนึ่ง หรือหยอดกระปุกออมสินเอาไว้

หรือถ้าคุณต้องการความสะดวก ปัจจุบันมีแอปพลิเคชั่น จากธนาคารที่สามารถตั้งค่า โ อ น เงินอัตโนมัติได้ในทุกๆ เดือนถ้าคุณกลั้นใจไม่ถอนเงินที่มีส่วนนั้นออกมาใช้ได้

รับรองว่าคุณจะมีเงินเก็บในทุกๆ เดือนอย่างแน่นอน

2. แบ่งเงินเป็นสัดส่วน

วิธีออมเงินนี้ เหมาะสำหรับ ผู้ที่อยากบริหารการเงินให้ดีในทุกๆ ด้าน ทั้งเงินเก็บ เงินที่ใช้ และหนี้สินต่างๆ อีกทั้งยังทำให้คุณเห็นภาพรวมของเงินด้วยว่าใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง

โดยการแบ่งสัดส่วนเงินหลัก หักค่าใช้จ่ายแล้ว เราขอแนะนำให้แบ่งออกเป็น 4 ส่วนดังนี้

– เงินสำหรับใช้จ่าย ในชีวิตประจำวัน 60%

– เงินสำหรับใช้จ่าย เพิ่มความสุขให้ตัวเอง 20%

– เงินสำหรับเก็บออม 10%

– เงินเผื่อใช้จ่าย ยามฉุกเฉิน 10%

โดยสัดส่วนนี้ จะทำให้คุณสามารถใช้เงินได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เป็นการฝืนตัวเองให้เก็บเงิน เยอะจนเกินไป อีกทั้งยังมีเผื่อไว้จ่ายยามฉุกเฉินอีกด้วย

3. ตั้งเป้าหมายในการเก็บเงิน

บางทีที่คุณยังเก็บเงินไม่อยู่ เพราะไม่รู้จะเก็บไป ทำอะไรเสียมากกว่า ฉะนั้นหากตั้งเป้าหมายว่า “เราจะเก็บเงินเพื่อสิ่งนี้!” อาจช่วยสร้างความฮึกเหิมในการเก็บเงินได้

ยกตัวอย่างเช่น อยากมีเงินแสน ตอนอายุ 25 ภายในสิ้นปี จะต้องมีเงินพอสำหรับไปต่างประเทศ หรือเพื่อเปิดกิจการสร้างธุรกิจส่วนตัวการสร้างแรงจูงใจนี้

จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายได้ง่าย กว่าการที่เก็บไปเรื่อยๆ แบบไร้จุดหมาย

4. กำหนดจำนวนเงินที่ต้องใช้

ลองเปลี่ยน มาใช้วิธีออมเงิน ที่เรียบง่ายที่สุด นั่นก็คือการกำหนดเงินที่ใช้ในแต่ละวัน อย่างตอนเด็กๆ ที่คุณได้เงินมาใช้วันละ 100 บาท

แต่ก็มีพอกินพอใช้สบายๆ คราวนี้ลองเปลี่ยนมาคำนวณเพื่อใช้สำหรับปัจจุบันดูบ้าง

ยกตัวอย่าง เช่น ใน 1 วันมีค่าอาหารเช้า กลางวันและเย็นประมาณ 180 บาท ค่ารถไปกับ 50 บาท เมื่อลองประมาณเผื่อค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้ว

คุณอาจนำเงินออกไปใช้เพียงวันละ 300 บาทไม่เกินกว่านี้แนะนำว่าให้นำเงินรายวัน เก็บเป็นซองไว้ พอจะออกจากบ้าน

ก็หยิบเงินถุงเงินไปใช้ เป็นการบังคับรายจ่ายที่ได้ผลดีทีเดียว

5. เลือกเก็บแบงค์ 50

วิธีนี้เป็นที่นิยมและค่อนข้างได้ผล อีกทั้งยังไม่สร้างภาระทางการเงินมากนัก เพราะแบงค์ 50 มีโอกาสที่จะได้รับมาค่อนข้างน้อย

แต่เมื่อผ่านไปนานๆ เข้าคุณอาจเก็บไว้ได้หลักพัน ถึงหลักหมื่นบาทโดยไม่รู้ตัวซึ่งวิธีนี้ค่อนข้างโด่งดังในโลกออนไลน์

มีผู้ที่ทดลอง วิธีเก็บเงินเช่นนี้ จำนวนมากแล้วได้ผล เป็นอีกวิธีออมเงินอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งได้ผลดีทีเดียว

6. บันทึกรายรับรายจ่าย

วิธีออมเงินโดย การทำบันทึกรายรับรายจ่าย จะทำให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละวันเป็นยังไงบ้าง ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเกินไปหรือไม่ มีค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่ไม่จำเป็นและปรับลดได้

ซึ่งตอนนี้มีแอปพลิเคชั่นจัดการรายรับจ่ายเยอะมาก สามารถวิเคราะห์ได้เลยว่าตอนนี้คุณใช้จ่ายส่วนไหนเยอะที่สุดเงินออมคุณ อยู่ในเกณฑ์ดีหรือ อั น ต ร า ย

หลายท่านใช้วิธีนี้แล้วไม่ได้ผล เลยอยากแนะนำ ทริคง่ายๆ คือ จดทุกครั้งที่ใช้ ช่วงแรกอาจจะยาก แต่พยายามทำให้ครบ 1 สัปดาห์ แล้วการบันทึกรายรับรายจ่ายจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ

ขอขอบคุณ t i d l o r

Load More Related Articles
Load More By adminyinde
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

12 อย่าง อย่าคิดโพสต์ลงโซเชียล เพราะอาจทำให้ชีวิตคุณแย่ลง

ทุกวันนี้ เราจะเห็นหลายๆ คน แ ช ร์ เรื่องราวต่างๆลงบน F a c e b o o k ของตนเองเต็มไปหมดเพร…