Home ข้อคิดสอนใจ 7 ลักษณะ บริษัทที่คุณไม่ควรไปสมัครงานด้วย

7 ลักษณะ บริษัทที่คุณไม่ควรไปสมัครงานด้วย

14 second read
0
86

หากคุณกำลังจะตกงาน แล้วยังหางานไม่ได้ หรือถ้าคุณทำงานอยู่แล้วเริ่มรู้สึกเบื่องานอยากหางานใหม่ คุณควรจะต้องตัดสินใจเลือกบริษัทที่กำลังจะทำงานด้วยให้ดี เพราะว่าการหางานไม่ได้มีเพียงปัจจัยในเรื่องของเงินและหน้าที่การงานเท่านั้น

แต่ยังมีเรื่องที่ต้องคิดเกี่ยวกับตัว “บริษัท” ที่เราจำต้องไปร่วมงานอีกด้วย ซึ่งก่อนที่จะยื่นสมัครหรือตอบตกลงทำงานกับบริษัทใด แม้ว่าเงินเดือนจะมากกว่างานที่คุณทำอยู่หรือตำแหน่งงาน น่าสนใจมากก็ตาม ขอพูดถึงมีบริษัท 7 แบบที่คุณไม่ควรไปร่วมงานด้วย หรือหากร่วมงานอยู่

1. บริษัทที่คนลาออกบ่อย

สังเกตอย่างไร : มีการลงประกาศ รับสมัครงาน ตำแหน่งสำคัญๆ ตามเว็บไซต์บ่อยๆ หรือบริษัทที่คุณเข้าไปทำงานอาทิตย์แรก มีแต่คนพูดว่าจะลาออก ทั้งพูดเล่นพูดจริง

มัน แ ย่ แค่ไหน : ปกติแล้ว บริษัทที่ดีไม่ควรมีการเปิดรับสมัคร ตำแหน่งผู้จัดการหรือผู้บริหารระดับสูงในทุกๆ 6 เดือน ถ้าคุณเห็นบริษัทใดที่มีพฤติกรรมดังกล่าว

แสดงว่าบริษัทนั้น กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ 3 สาเหตุคือ

– ผู้บริหาร ไม่มีความเป็นผู้นำที่ดี

– มีวัฒนธรรมองค์กร ภายในที่ไม่สามารถดึงดูดคนดีๆ ไว้ได้

– หรือเป็นไปได้ว่าผู้บริหารระดับสูงมีเป้าหมายสั้นพอๆ กับระยะเวลาที่พนักงานอยู่ในบริษัท

ทำอย่างไร : บริษัทที่มี แต่คนลาออกมัก ไม่ทำตามข้อตกลงที่เคยบอกคุณไว้

เพราะฉะนั้น หากเขาสัญญาว่าจะโปรโมตคุณในระยะเวลาเท่านั้นเท่านี้

2. บริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กร ขัดแย้งกันเอง

สังเกตเห็นได้อย่างไร : มีคนวงในหรือเพื่อนของเพื่อนคุณที่ทำงาน ในนั้นบ่นให้ฟังถึงบรรยากาศการทำงานหรือ มีคนรีวิวการทำงานตามบอร์ดสาธารณะอยู่เรื่อย ๆ

มัน แ ย่ แค่ไหน : บริษัทแบบนี้อาจจะไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้คุณไม่เลือกส่งใบสมัครมาตั้งแต่แรกแต่รับรองได้ว่ามันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตการทำงานของคุณ

ในระยะยาวแน่ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพ การทำงานของคุณ ไปจนถึงด้านการเงินของบริษัท

ทำอย่างไร : เลี่ยงได้ก็เลี่ยง พยายามอย่าตกลงปลงใจทำสัญญากับบริษัทแบบนี้เพราะคุณอาจมีปัญหาในระยะยาวแน่

3. บริษัทที่ข้างนอก สุกใสข้างในเป็นโพรง

สังเกตเห็นได้อย่างไร : ภาพบรรยากาศ การทำงานสุดคูล ออฟฟิศสุดเลิศและแคมเปญ โ ฆ ษ ณ า ที่ไม่มีใครเทียบได้

แต่พอเข้าไปทำงานจริงกลับกลายเป็น หนังคนละม้วนมีแค่ออฟฟิศของเจ้านายเท่านั้น

ที่สามารถเรียกว่าออฟฟิศได้ส่วนตรงอื่นอย่าเรียกว่า ออฟฟิศเลย นอกจากไฟฟ้าที่ไม่สว่างและคอมพิวเตอร์

ตั้งแต่สมัยพระเจ้ า เ ห า แล้วไม่ต้องพูดถึงมุมพัก เบรคของพนักงาน ฝันไปซะเถอะ

มัน แ ย่ แค่ไหน : ก็เหมือนคุณ เข้าเว็บจองโรงแรม ที่คุณไม่ได้มีโอกาสเห็นจริงๆ ก่อนในรูปดูสวยมาก แต่พอเข้าพักจริงๆ แล้วต่างกันราวฟ้ากับเหว

แต่ที่น่ากังวลกว่าคือโรงแรมคุณอยู่แค่ 2-3 คืน แต่บริษัทแบบนั้น คุณจะต้องอยู่กับมันอย่างน้อย 40 ชั่ วโมงต่อสัปดาห์ไปอีกอย่างน้อยครึ่งปี คิดดูว่าจะ แ ย่ แค่ไหน

ทำอย่างไร : หาอ่านรีวิวบริษัทให้ดีก่อนตัดสินใจเข้าทำงานในที่ใดที่หนึ่ง แต่ทางที่ดีคุณควรหาคนรู้จัก ที่ทำงานดูในนั้นแล้วถามซะ ของแบบนี้ต้อง D i g D e e p

4. บริษัทเน้นคุยงานไม่เน้นทำงาน

สังเกตเห็นได้อย่างไร : วันๆ ผู้บริหาร เอาแต่ประชุมๆ ไม่กระจายงาน ไม่ตัดสินใจอะไรสักอย่าง

มัน แ ย่ แค่ไหน : ลองคิดถึงว่า คุณต้องทำงาน ในบริษัทที่มีผู้บริหารระดับสูง 3 คนนั่งประชุมระดมความคิดกันเองอยู่ในห้องทั้งวัน แต่พอจบวันพวกเขากลับลงเอย

แยกย้ายกันกลับบ้าน และคุณก็ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร หรือ แ ย่ กว่านั้นคือพวกเขากลับมาทวงงานคุณทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ให้คุณทำอะไรทั้งวัน

ทำอย่างไร : ลองถามตัวคุณเองด้วย คำถามเหล่านี้ เช่น มีเฉพาะคนในเท่านั้นใช่มั้ย ที่จะได้โปรโม ทหรือบริษัทกำลังหาคนนอกเข้าไปทำงานตำแหน่งใหญ่หรือเปล่าหรือ เอ๊ะ ทำไมมีผู้บริหารระดับ Vice Pressident เป็น 10 ทั้งๆ ที่ บริษัทมีพนักงงาน

ทั้งหมดแค่ 100 คน ถ้าคุณเกิดคำถามขณะดูรายละเอียดบริษัทนั่นแหละ คือสัญญาณที่บอกว่า บริษัทนั้นเป็นบริษัทที่เน้นคุยงานไม่เน้นทำงาน ซึ่งถ้าคุณเลือกได้ก็อย่าเข้าไปทำงานกับบริษัทแบบนี้เลย

5. บริษัทที่เล่นไม่ซื่อกับคุณ

สังเกตเห็นได้อย่างไร : บริษัทที่คุณทำงานอยู่ ไม่มีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน หรือไม่มีการเขียนอะไรเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของคุณที่ชัดเจน

ไปจนถึงเป้าหมายระยะยาวของบริษัทหรือคุณอาจจะเห็นนายคุณเอง ที่เอาแต่สัญญาว่าจะ โ ป ร โ ม ท คุณวันนั้นวันนี้ ระวังไว้ให้ดี​

มัน แ ย่ แค่ไหน : ในโลกปัจจุบันที่ทุกคน ถามหาความโปร่งใสเชื่อถือได้จากทุกองค์กร บริษัทต่างๆ จึงพยายามนำเสนอความโปร่งใสโดยการนำเสนอให้เห็นวัฒนธรรมองค์กร เช่น การเปิดเผยสวัสดิการ หรือโบนัสต่างๆ จนกลายมาเป็นเหมือนคำมั่นสัญญาที่บริษัทพยายามสร้างมาแข่งกัน

ลองคิดดูว่าถ้า HR มาบอกว่าจะ โ ป ร โ ม ท คุณปลายปีนี้ แต่พอปลายปีกลับทำเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือบอสคุณบอกจะขึ้นเงินเดือนให้ปลายปีแต่พอถึงปลายปีกลับบอกว่าไว้กลางปีหน้า นั่นแหละคือที่มาของบริษัทที่เล่นไม่ซื่อกับคุณ

ทำอย่างไร : วางแผนหางานใหม่และเตรียมตัวลาออกเลย เพราะมันไม่มีเหตุผลที่คุณจะอยู่ทำงานกับบริษัทที่เอาแต่สัญญาและเล่นไม่ซื่อกับคุณอยู่ไปชีวิตคุณคงย่ำอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ

6. บริษัทบอนไซ

สังเกตเห็นได้อย่างไร : คุณรู้สึกว่าคุณไม่ได้เรียนรู้อะไร เพิ่มเติมเลยจากงานที่ทำอยู่ทุกวัน ไม่มีการประเมินผลการทำงาน หรือคุณอาจจะโดนสั่ง ให้ทำงานนอกเหนือความรับผิดชอบตลอดเวลา

มัน แ ย่ แค่ไหน : คุณอาจจะคิดว่าเงินเดือนโอเคหน้าที่ที่คุณได้รับมอบหมายก็ไม่ แ ย่ แต่พอคิดๆ ดูอีกที ยิ่งทำงานนี้ไปเรื่อยๆ คุณกลับไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมเลยหนำซ้ำยังรู้สึกภูมิปัญญา ลดน้อยถอยลง จะขอไปเรียนต่อเหรอ

ฝันไปเถอะ บริษัทบอนไซเหมาะมากกับคนที่ไม่อยากเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมอีกแล้วพอแล้วกับสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่มีเป้าหมายในอนาคตไม่อยากโตไปมากกว่านี้แต่ เราว่าไม่มีใครอยากทำงานกับบริษัทแบบนี้แน่

ทำอย่างไร : ทำงานที่ บริษัทบอนไซหมายถึง สัญญาณที่คุณจะต้องลาออกมาเข้าสู่วัฏจักรหางานสมัครงาน ใน 12 เดือน 18 เดือนแน่นอน

เพราะบอนไซคือต้นไม้ที่ถูกตัด และเลี้ยงไว้ไม่ให้โตไปมากกว่านี้ หรือพูดอีกอย่างคือไม่ต ายก็เลี้ยงไม่โต

7. บริษัท ที่ไม่มีอนาคต ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร

สังเกตเห็นได้อย่างไร : บริษัทคุณ ไม่มีแผนอะไรเลย ไม่ว่าระยะสั้น ระยะยาว ระยะไหนๆไม่ว่าคุณจะไปถามใคร ในบริษัทก็ไม่มีใครรู้ แม้กระทั่งหัวหน้าคุณเอง

มัน แ ย่ แค่ไหน : บริษัทที่เปรียบเสมือนไททานิค ที่ล่องไปในมหาสมุทรกว้างใหญ่ ดูแล้วไม่มีอนาคตแบบนี้ ก็เหมือนบริษัทที่พร้อมจะจมลงได้ทุกเมื่อคุณอาจจะไม่รู้สึกอะไรเมื่อเข้าไปเริ่มงานแรกๆ อาจจะมองว่ามันเป็นความท้าทายเป็นความเปลี่ยนแปลงในบริษัทที่เกิดขึ้น

เหมือนชีวิตต้องหมุนเร็วตลอดเวลาแต่เมื่อทำงานไปแล้ว คุณอาจจะพบว่าทุกอย่างมันเละทุกอย่างถูกคิดและทำแบบวันต่อวัน ไม่มีการวางแผนไว้ก่อน ระวังตัวไว้ บางทีอาจจะมีสัญญาณ เช่น “เดือนนี้ผมขอยังไม่จ่ายเงินเดือนนะ” ตามมาก็เป็นได้

ทำอย่างไร : ไม่ว่าภาพลักษณ์ของบริษัทจะดูดีแค่ไหน ตามที่คุณเห็นในสื่อต่างๆแต่ถ้าบริษัทไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร ทำไปทำไม แสดงว่าบริษัทคุณ ไม่มีแผนกลยุทธ์สิ่งที่คุณทำได้คือช่วยบริษัทคุณวางแผนหรือลาออกไปทำงานที่อื่นซะดีกว่า

ขอขอบคุณ w o r k v e n t u r e

Load More Related Articles
Load More By adminyinde
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

12 อย่าง อย่าคิดโพสต์ลงโซเชียล เพราะอาจทำให้ชีวิตคุณแย่ลง

ทุกวันนี้ เราจะเห็นหลายๆ คน แ ช ร์ เรื่องราวต่างๆลงบน F a c e b o o k ของตนเองเต็มไปหมดเพร…