ปัจจุบัน การที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจหรือเป็นเถ้าแก่หน้าใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะประสบความสำเร็จ เถ้าแก่หน้าใหม่จึงต้องมีการเตรียมตัวให้มาก ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาหาข้อมูล ในธุรกิจที่จะทำให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ และมีการวางแผนงานทางธุรกิจที่รอบคอบและชัดเจน
จึงมีคำถามตามมาว่าการที่เราจะเป็นเถ้าแก่ได้ นั้นต้องทำอย่างไร วันนี้เราจะนำเสนอ 6 แนวคิดในการก้าวสู่การเป็นเถ้าแก่ชั้นเทพ ตั้งแต่ยังเป็นลูกจ้าง เพื่อเป็นแนวทางให้กับบรรดาลูกจ้างทุกคน ที่อยากผันตัวเองมาเป็นเถ้าแก่ บริหารธุรกิจด้วยตัวเองครับ
1.โน้มน้าวคนเป็น
ถ้าเรา เป็นเถ้าแก่ เราต้องโน้มน้าวคนจำนวนมาก เช่น ลูกค้า นายธนาคาร พนักงาน
ดังนั้น เราควรฝึกโน้มน้าวคนตั้งแต่ตอนเป็นลูกจ้าง ฝึกสังเกตคนที่โน้มน้าวคนเก่งว่าเขาทำอย่างไรแล้วลองมาทำบ้าง
2.ริเริ่ม ความคิด
หากอยากประสบความสำเร็จแบบเถ้าแก่ เราต้องริเริ่มเป็น อาจจะริเริ่มความคิดใหม่โดยไม่ต้องมีใครมาสั่งองค์กรส่วนใหญ่ ชอบที่จะให้พนักงานของตนมีความคิดริเริ่มอยู่แล้ว
ฝึกถามตัวเองบ่อยๆว่า ถ้าบริษัทนี้เราเป็นเจ้าของเราจะทำอะไรแตกต่างไปจากเดิมบ้าง หรือเราจะเริ่มต้นทำอะไร ที่เรายังไม่เคยทำมาแล้วบ้าง แล้วลองนำความคิดนั้นไปลงมือทำ
หากสามารถทำได้ภายใต้ขอบเขตที่ตนเองมีอำน า จก็ทำเลย หากต้องการการอนุมัติก็นำไปหารือกับนาย
3.ทำงาน อย่างมีคุณภาพ
ในหนังสือ “ส ตี ฟ จ็ อ บ ส์” โดย วอลเตอร์ ไอแซคสัน สตีฟ เล่าปรัชญาการทำงาน ที่เขาเรียนมาจากพ่อของเขา ตอนเด็กๆ พ่อสอนเขาทาสีรั้ว แม้กระทั่งด้านหลังที่ไม่มีคนเห็นพ่อของเขาชอบทำให้ดีเยี่ยม
เขาใส่ใจในคุณภาพ แม้ในจุดที่คนมองไม่เห็นก็ตาม จ็อบส์บอกว่าปรัชญานี้ ทำให้เขาสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของแอ ปเ ปิ้ ล ด้วยความใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด แม้ว่ามันจะเป็นส่วนที่ลูกค้ามองไม่เห็นก็ตาม
4.ฝึก ทำงานหนัก
การเป็นเถ้าแก่ต้องทำงานหนัก มีคนจำนวนมากบอกว่า ตอนเป็นลูกจ้าง ก็ทำงานแบบพอผ่าน แต่ว่าหากเป็นธุรกิจของเราเองเมื่อไร จะทุ่มสุดตัวเลย จะหนักแค่ไหนก็ทำเพราะมันเป็นของเรา
จริงๆ แล้ว การทำงานหนักเป็นนิสัย ต้องเกิดจากการทำ แบบสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง เป็นระยะเวลาหนึ่ง ถ้าอยากฝึกทำงานหนัก ก็ต้องเริ่มฝึกตั้งแต่ตอนเป็นลูกจ้าง
ยิ่งทำงานมาก ยิ่งมีประสบการณ์มาก คนที่ทำงานวันละ 8 ชั่ วโมง เทียบกับคนทำงานวันละ 12 ชั่ วโมง คนแรกทำงาน 2 ปีเท่ากับคนที่สองทำงานมา 3 ปี
5.ทำงานดี ภายใต้การแยกส่วน
คือแยกส่วนต่างคนต่างทำ แนวคิดนี้มาจากการที่ คนคิดว่าฉันจะทำงานภายใต้ฝ่ายหรือส่วนที่ฉันรับผิดชอบ โดยมักจะไม่แบ่ งปั นข้อมูลในการทำงานให้คนนอกฝ่ายตนเอง แม้ว่าจะเป็นคนในองค์กรเดียวกันก็ตาม วิธีคิดแบบนี้ทำให้ลดประสิทธิภาพลงไปมาก และเป็นอุปสรรคที่ไม่ดี
หากองค์กรไหนมีวิธีคิดแบบนี้ เรื่องนี้อาจจะเป็นอุปสรรคในการทำงานของคนส่วนใหญ่แต่ว่าหากใครที่เป็นคนที่มุ่งมั่น กัดไม่ปล่อย พวกเขาจะเลือกใช้วิธีโน้มน้าวใจ ต่อรอง ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว เพื่อให้งานเดินไปได้ด้วยดี การทำงานแบบนี้คือการเตรียมตัวที่ดีเยี่ยมสำหรับคนที่อยากเป็นเถ้าแก่
เพราะว่าคุณมีโอกาสฝึกฝนหลายๆ เรื่อง ในเวลาเดียวกัน ข่าวดีคือการฝึกแบบนี้จะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยไหนก็ไม่มีสอนมีแต่ในองค์กรของคุณเท่านั้น
6.อย่าห่วงแต่ขอบข่าย งานตัวเอง
ลองมอง เถ้าแก่ร้านก๋วยเตี๋ยวดูว่าเขาไม่เคยถามตัวเองหรอก ว่านี่มันงานของใคร นี่ใช่งานฉันหรือ ในฐานะเถ้าแก่ที่เป็นธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น เราต้องทำทุกอย่าง ดังนั้น เตรียมตัวเองตั้งแต่ตอนเป็นลูกจ้างดีที่สุด ทำงานตนเองให้ดีเยี่ยม เมื่องานเสร็จเสนอตัวช่วยคนอื่น
ทำงานให้หลากหลายสายงาน แม้ว่าจะมันจะไม่ใช่หน้าที่ของเราก็ตาม เราจะเห็นได้ว่า หากคิดเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเอง มีหลากหลายวิธี และเราอาจเลือกวิธีการอื่นๆ ที่จะช่วยให้เราเริ่มต้น การทำธุรกิจให้ง่ายขึ้น โดยการซื้อแฟร นไ ช ส์ หรือการซื้อกิจการต่อจากผู้อื่น
เพราะจะทำให้เราตัดปัญหาในการวางระบบการทำงานและการบริหารเอง การสร้างฐานลูกค้าก็ง่ายขึ้นและสามารถลดความ เ สี่ ย ง ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม การที่จะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้นเราต้องมีการหาความรู้เพิ่มเติม
และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อธุรกิจของเราจะสามารถอยู่ในโลกที่มีแข่งขัน อย่างเข้มข้นได้ ถ้าอยากเป็นเถ้าแก่จงเปลี่ยนแนวคิดตั้งแต่ยังเป็นลูกจ้าง
ขอขอบคุณ t h a i s m e s c e n t e r . c o m