Home ข้อคิดสอนใจ 6 แนวคิดจากชีวิตลูกจ้าง..สู่เถ้าแก่ในอนาคต

6 แนวคิดจากชีวิตลูกจ้าง..สู่เถ้าแก่ในอนาคต

9 second read
0
229

ปัจจุบันการที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจหรือ เป็นเถ้าแก่หน้าใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะประสบความสำเร็จ เถ้าแก่หน้าใหม่จึงต้องมีการเตรียมตัวให้มาก ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาหาข้อมูล ในธุรกิจที่จะทำให้เข้าใจอย่างถ่องแท้

และมีการวางแผนงานทางธุรกิจ ที่รอบคอบและชัดเจน จึงมีคำถามตามมาว่า การที่เราจะเป็นเถ้าแก่ได้นั้นต้องทำอย่างไร วันนี้จะนำเสนอ 6 แนวคิดในการก้าวสู่การเป็นเถ้าแก่ชั้นเทพ

ตั้งแต่ยังเป็นลูกจ้าง เพื่อเป็นแนวทางให้กับบรรดาลูกจ้างทุกคน ที่อยากผันตัวเองมาเป็นเถ้าแก่บริหารธุรกิจด้วยตัวเองครับ

1.ริเริ่มความคิด

หากอยาก ประสบความสำเร็จแบบเถ้าแก่ เราต้องริเริ่มเป็น อาจจะริเริ่มความคิดใหม่โดยไม่ต้องมีใครมาสั่งองค์กรส่วนใหญ่ ชอบที่จะให้พนักงานของตน มีความคิดริเริ่มอยู่แล้ว ฝึกถามตัวเองบ่อยๆ ว่าถ้าบริษัทนี้เราเป็นเจ้าของ เราจะทำอะไรแตกต่าง ไปจากเดิมบ้าง

หรือเราจะเริ่มต้นทำอะไรที่เรายังไม่เคยทำมาแล้วบ้าง แล้วลองนำความคิดนั้นไปลงมือทำ หากสามารถทำได้ภายใต้ขอบเขตที่ตนเอง มีอำนาจก็ทำเลย หากต้องการการอนุมัติก็นำไปหารือกับนาย

2.โน้มน้าวคนเป็น

ถ้าเราเป็นเถ้าแก่ เราต้องโน้มน้าว คนจำนวนมาก เช่น ลูกค้า นายธนาคาร พนักงาน ดังนั้น เราควรฝึกโน้มน้าวคนตั้งแต่ตอนเป็น ลูกจ้างฝึกสังเกตคนที่โน้มน้าว คนเก่งว่าเขาทำอย่างไร แล้วลองมาทำบ้าง

3.ฝึกทำงานหนัก

การเป็นเถ้าแก่ ต้องทำงานหนักมีคนจำนวน มากบอกว่าตอนเป็นลูกจ้าง ก็ทำงานแบบพอผ่าน แต่ว่าหากเป็นธุรกิจ ของเราเองเมื่อไร จะทุ่มสุดตัวเลย จะหนักแค่ไหนก็ทำ เพราะมันเป็นของเรา จริงๆ แล้วการทำงานหนักเป็นนิสัย ต้องเกิดจากการทำแบบสม่ำเสมอ

ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่งถ้าอยากฝึกทำงานหนัก ก็ต้องเริ่มฝึกตั้งแต่ตอนเป็นลูกจ้าง ยิ่งทำงานมากยิ่ง มีประสบการณ์มาก คนที่ทำงานวันละ 8 ชั่ ว โมงเทียบกับคนทำงานวันละ 12 ชั่ วโมง คนแรกทำงาน 2 ปีเท่ากับคนที่สองทำงานมา 3 ปี

4.ทำงานอย่างมีคุณภาพ

ในหนังสือ “ส ตี ฟ จ็ อ บ ส์” โดย วอลเตอร์ ไอแซคสัน สตีฟ เล่าปรัชญาการทำงานที่เขาเรียน มาจากพ่อของเขา ตอนเด็กๆ พ่อสอนเขาทาสีรั้ว แม้กระทั่งด้านหลังที่ไม่มีคนเห็น พ่อของเขาชอบทำให้ดีเยี่ยม

เขาใส่ใจในคุณภาพแม้ในจุดที่คนมองไม่เห็นก็ตาม จ็อบส์บอกว่าปรัชญานี้ ทำให้เขาสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆของแอปเปิ้ล ด้วยความใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด แม้ว่ามันจะเป็นส่วนที่ลูกค้ามองไม่เห็นก็ตาม

5.ทำงานดีภายใต้การแยกส่วน

คือแยกส่วน ต่างคนต่างทำ แนวคิดนี้มาจากการที่คนคิดว่า ฉันจะทำงานภายใต้ฝ่าย หรือส่วนที่ฉันรับผิดชอบ

โดยมักจะไม่ แ บ่ ง ปั น ข้อมูล ในการทำงานให้คนนอกฝ่ายตนเอง แม้ว่าจะเป็นคนในองค์กรเดียวกันก็ตามวิธีคิดแบบนี้ทำให้ลดประสิทธิภาพลงไปมาก และเป็นอุปสรรคที่ไม่ดี

หากองค์กรไหนมีวิธีคิดแบบนี้ เรื่องนี้อาจจะเป็นอุปสรรคในการทำงานของคนส่วนใหญ่ แต่ว่าหากใคร ที่เป็นคนที่มุ่งมั่น กัดไม่ปล่อยพวกเขาจะเลือกใช้วิธีโน้มน้าวใจ ต่อรอง ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว เพื่อให้งานเดินไปได้ด้วยดี

การทำงานแบบนี้คือการเตรียมตัวที่ดีเยี่ยมสำหรับคนที่อยากเป็นเถ้าแก่ เพราะว่าคุณมีโอกาสฝึกฝนหลายๆ เรื่องในเวลาเดียวกัน ข่าวดีคือการฝึกแบบนี้จะไปเรียน ที่มหาวิทยาลัยไหนก็ไม่มีสอนมีแต่ในองค์กรของคุณเท่านั้น

6.อย่าห่วงแต่ขอบข่ายงานตัวเอง

ลองมองเถ้าแก่ ร้านก๋วยเตี๋ยวดูว่า เขาไม่เคยถามตัวเองหรอกว่า นี่มันงานของใคร นี่ใช่งานฉันหรือในฐานะเถ้าแก่ที่เป็นธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น เราต้องทำทุกอย่าง ดังนั้น เตรียมตัวเองตั้งแต่ ตอนเป็นลูกจ้างดีที่สุด ทำงานตนเองให้ดีเยี่ยม เมื่องานเสร็จเสนอตัวช่วยคนอื่น

ทำงานให้หลากหลายสายงาน แม้ว่าจะมันจะไม่ใช่หน้าที่ของเราก็ตามเราจะเห็นได้ว่า หากคิดเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเอง มีหลากหลายวิธี และเราอาจเลือกวิธีการอื่นๆ ที่จะช่วยให้เราเริ่มต้นการทำธุรกิจให้ง่ายขึ้น

โดยการซื้อ แ ฟ ร นไ ช ส์ หรือการซื้อกิจการต่อจากผู้อื่นเพราะจะทำให้เราตัดปัญหาในการวางระบบการทำงานและการบริหารเอง การสร้างฐานลูกค้าก็ง่ายขึ้น และสามารถลดความ เ สี่ ย ง ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้

แต่อย่างไรก็ตาม การที่จะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น เราต้องมีการหาความรู้เพิ่มเติม และพัฒนาตนเองอยู่เสมอเพื่อธุรกิจของเรา จะสามารถอยู่ในโลกที่มีแข่งขัน อย่างเข้มข้นได้ถ้าอยากเป็นเถ้าแก่ จงเปลี่ยนแนวคิดตั้งแต่ยังเป็นลูกจ้าง

ขอขอบคุณ t h a i s m e s c e n t e r

Load More Related Articles
Load More By adminyinde
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

12 อย่าง อย่าคิดโพสต์ลงโซเชียล เพราะอาจทำให้ชีวิตคุณแย่ลง

ทุกวันนี้ เราจะเห็นหลายๆ คน แ ช ร์ เรื่องราวต่างๆลงบน F a c e b o o k ของตนเองเต็มไปหมดเพร…