
1.ทำงบการเงิน ส่วนบุคคลและวางแผนการใช้จ่าย
เพราะเมื่อเราวางแผน การใช้เงิน ก็จะทำให้ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลงไปได้ ทำให้เรามีเงินเก็บสำหรับเป้าหมายในอนาคต มีเงินสำรองฉุกเฉิน
หรือแม้แต่ลำดับความสำคัญของการออมเงินของตนเองได้ อย่างมีประสิทธิภาพวิธีการทำงบการเงินส่วนบุคคลก็ไม่ยาก แค่แยกรายรับว่ามีอะไรบ้าง
เงินเดือนโบนัส รายได้เสริม รวมกันให้หมด เสร็จแล้วก็มาดูฝั่งรายจ่ายว่ามีอะไรบ้างในแต่วัน-แต่ละเดือน ทั้งค่า อ า ห า ร เสื้อผ้า บ้าน รถ การศึกษา
หรือค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดส่วนตัว พอประมาณทั้ง 2 ฝั่งได้แล้วก็ลองเอามาบวกลบกันดูถ้าต้องใช้มากกว่าที่หามาได้ จะได้สามารถลดทอนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นไป
2.ตั้งเป้าหมาย ที่เป็นไปได้
การตั้งเป้าหมาย ที่มีความเป็นไปได้จะทำให้เรารู้ว่าต้องออมเท่าไหร่และนานแค่ไหน จึงจะไปถึงเป้าหมายที่เราต้องการ
อย่าลืมว่าจำนวนเงินที่คุณขาด นั่นคือเอาเป้าหมายลบกับที่มีอยู่ในวันนี้ ต้องไม่เกินกว่ากำลังวังชาของคุณที่จะเก็บออมหรือลงทุนเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น
3.ใส่ใจกับ Lifestyle Inflation ของตัวเอง
คนส่วนใหญ่มักจ่ายมากขึ้นเมื่อรายได้ของเขาสูงขึ้น คนบางคนตอนมีรายได้30,000 บาทอาจใช้แค่ 15,000 บาท (หรือ 50%) แล้วเหลือเก็บอีก 15,000 บาท
แต่พอรายได้เพิ่มเป็น 50,000 บาท อาจใช้ถึง 35,000 บาท โดยคิดว่า เหลือเก็บเท่าเดิมคือ 15,000 บาท แต่จริงๆ แล้ว กลับคิดเป็นสัดส่วนของค่าใช้จ่ายถึง 70% เหลือเก็บแค่ 30% เท่านั้น
ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากกว่ารายได้ ที่เพิ่มเรียกว่าเป็น Lifestyle Inflation นั่นเอง ดังนั้นต้องตัดสินใจและคำนวณให้ดีว่าเมื่อรายได้เราสูงขึ้นจะใช้มากขึ้นแค่ไหน
หรือเก็บมากขึ้นอย่างไร เพื่อจะได้วางแผนการออมในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น
4.เข้าใจความต่าง ระหว่าง “จำเป็น” กับ “ต้องการ”
“จำเป็น” คือ ต้องใช้เพื่อการดำรงชีวิต เช่น อาหาร เสื้อผ้า ห ยู ก ย า การเดินทางแต่ถ้าแค่ “ต้องการ” แล้วล่ะก็เป็นแค่สิ่งที่เราอยากได้…
แต่ไม่ได้สำคัญมากมายกับการดำรงชีวิตซึ่งเราต้องแยกให้ออกเพื่อจะได้บริหารจัดการค่าใช้จ่ายและเงินออมของตนเองได้
5.กระจายเงินออม ไปอยู่ในสินทรัพย์ที่เหมาะกับเป้าหมาย
ในเมื่อตัดสินใจ จะพัฒนาทักษะการออมของตัวเองแล้ว การเก็บเงินไว้ธนาคารอาจง่ายต่อการถอนมาใช้ ดังนั้น จึงควรกระจายเงินออมของเราไปยังที่ที่เหมาะกับเป้าหมาย
เช่น ถ้าเป็นการออมระยะยาว เพื่อเป้าหมายเกษียณ อีกนานกว่าจะใช้เงิน ก็ควรหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น
จากสินทรัพย์ที่ เ สี่ ย ง มากขึ้นและลงทุนในระยะยาว เป็นต้น ซึ่งนี่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายเงินออมได้มากขึ้นด้วย
ขอขอบคุณ w e a l t h m e u p