1.การรับประทานอาหารราคาแพง
อาหาร เป็นปัจจัย 4 ที่จำเป็น แต่บางคนเสียเงิน ไปกับอาหารสุดหรูแสนแพง ทั้งที่ความจริงเรากินอาหารราคาธรรมดาเราก็อยู่ได้ อาจจะเพราะด้วยหน้าตาทางสังคม
หรือจะเหตุผลใดๆ ก็ตามแต่ บางคนชอบกินอาหารห้องแอร์ หรือในร้านที่มีราคาแพง ๆทั้งที่รายได้ตัวเองไม่ได้มีมาก วิธีใช้จ่ายแบบนี้ทำให้เราหมดเงินโดยไม่จำเป็น
2.ปาร์ตี้หลังเลิกงาน
โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่วันเงินเดือนออก หรือเย็นวันสุดท้ายของการทำงาน มักมีนัดรวมตัว ปาร์ตี้สังสรรค์ด้วย
อ้างว่าคลาย เ ค รี ย ด จากงานที่ทำหรือเหตุผลใดๆก็ตามแต่ รายจ่ายในส่วนนี้เฉลี่ยต่อคนบางทีตกเดือนละหลายพันบาท
3.โปรโมชั่นโทรศัพท์ที่แพงเกินไป
โทรศัพท์และอินเทอร์เนต มีความจำเป็นกับคนในยุคนี้ แต่ก็ควรเลือกโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเอง บางโปรราคาแพงมาก
ค่าใช้จ่ายต่อเดือนสูงกว่า 1,000 บาททั้งที่เราไม่ได้ใช้งานอย่างเต็มที่ คงจะดีกว่าถ้าเราเลือกโปรใช้งานที่ราคาถูกลงไม่กระทบกับชีวิตประจำวัน
อาจทำให้เรามีเงินเหลือจากส่วนนี้ได้เดือนละหลายร้อยบาท
4.ค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ไม่จำเป็น
การใช้ชีวิตในกรุงเทพจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายจากการเดินทาง ทั้งค่ารถไฟฟ้า รถเมล์ วินมอเตอร์ไซด์ แท็กซี่ เป็นต้น ซึ่งบางคนใช้จ่ายตรงนี้สูงมาก
เช่น บางทีตื่นสาย ต้องรีบไปทำงานก็ต้องเรียกวินมอเตอร์ไซด์หรือไม่ก็ต้องใช้บริการแท็กซี่ หรือบางทีต้องการความรวดเร็วก็ใช้บริการรถไฟฟ้า
ซึ่งหากเรา ปรับวิธีคิด วิธีเดินทางเช่นตื่นเร็วขึ้น ออกจากบ้านเร็วขึ้น เราอาจไม่ต้องเสียค่ารถไฟฟ้า ไม่ต้องใช้บริการแท็กซี่ หรือวินมอเตอร์ไซด์ ก็ช่วยประหยัดรายจ่ายได้มากขึ้น
5.ค่าบริการเสริมรายเดือนเพื่อความบันเทิง
เข้าใจว่าทุกคนอยากคลายเ ค รี ย ด ซึ่งปัจจุบันก็มีบริการเสริมด้านความบันเทิงมากมาย เช่นแอพพลิเคชั่นสำหรับการดูหนังแบบรายเดือน
หรือบริการเสริมอื่นๆ ที่เราจำเป็นต้องจ่ายค่าบริการรายเดือนหากเรามีเงินมากพอการใช้บริการเหล่านี้ก็คงไม่ใช่เรื่องเสียหาย
แต่ถ้ายุคนี้เรามีเงินน้อย ถ้าเลือกจำกัดรายจ่ายส่วนนี้ลงได้ เราก็จะมีเงินเหลือใช้ต่อเดือนมากขึ้น
6.ค่าใช้จ่ายสำหรับยานพาหนะส่วนตัว
ยานพาหนะคือสิ่งที่จำเป็น ไม่ว่าจะมอเตอร์ไซด์หรือว่ารถยนต์ และบางคนก็ชอบตกแต่งรถยนต์ให้สวยงาม ก็เท่ากับเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้มากขึ้น
โดยไม่จำเป็นเพราะปกติการใช้รถยนต์หรือมอเตอร์ไซด์ก็มีค่าใช้จ่ายน้ำมันต่อเดือน สำหรับรถยนต์ก็อาจมีค่าทางด่วนเพิ่มขึ้น ไหนจะค่าซ่อมแซมบำรุงรถยนต์
ที่ถือว่ารายจ่ายต่อ เดือนค่อนข้างสูง ดังนั้นหากประหยัดส่วนนี้ได้ก็คงเป็นเรื่องที่ดีมาก
7.เครื่องประดับต่างๆ
เครื่องประดับ ที่ไม่ควรซื้อหรือซื้อได้ก็ไม่ควรให้มากเกินความจำเป็น เช่น ต่างหู แหวน สร้อยข้อมือ หรือบางคนใส่เครื่องประดับพวกเพชรพลอย
เพื่อแสดงให้คนอื่นรู้ว่าฉันมีเงิน แต่ความจริงแล้วใส่แค่นาฬิกาเรือนเดียวก็ได้ หรือคุณผู้หญิงอาจมีต่างหูหรือสร้อยสักเส้นประดับก็พอ จะได้ไม่สิ้นเปลืองเงินมากนัก
8.สินค้าแฟชั่นที่ไม่จำเป็น
บางคนตามติดแฟชั่น อินเทรนด์ตลอดเวลา มีอะไรใหม่ก็ต้องรีบซื้อ ไม่ว่าจะโทรศัพท์รุ่นใหม่ เสื้อผ้า แ บ ร น ด์ เนม รองเท้า เครื่องสำอาง เครื่องประดับ
สิ่งเหล่านี้ คือสินค้าแฟชั่น ที่ไม่จำเป็นและยังไม่จำเป็นต้องมีในขณะนี้ เราสามารถใช้ของที่มีอยู่เดิมก่อนได้ รายจ่ายเราก็จะไม่มากขึ้นด้วย
9.ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่ใช้เกินความพอดี
ค่าบริการสาธารณูปโภค อย่างค่าน้ำ ค่าไฟ คือรายจ่ายต่อเดือนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถควบคุมและจำกัดการใช้เพื่อให้ตัวเลขรายจ่ายในส่วนนี้ลดลงได้
อย่างไฟบางดวงไม่ใช้ก็ควรจะดับ หรือตอนนอนกลางคืนก็ไม่ควรนอนเปิดไฟ บ้านไหนมีแอร์ถ้าไม่ใช้ก็ไม่ควรเปิดทิ้งไว้ หันมาใช้พัดลมแทนบ้าง
ซึ่งการประหยัด น้ำประหยัดไฟ คือวิธีลดรายจ่ายที่เราควรทำ
10.ค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าออนไลน์
ยุคนี้การตลาดออนไลน์ เฟื่องฟูมาก ยิ่งคนไม่ค่อยออกจากบ้านและหันมาช็อปผ่านออนไลน์ ก็ทำให้การซื้อสินค้าออนไลน์กลายเป็นช่องทางหนึ่งในการเพิ่มรายจ่ายให้กับเราไม่รู้ตัว
ด้วยความง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วคลิ๊ก บางคนสั่งสินค้าออนไลน์ มาส่งทุกวัน แม้ราคาจะไม่แพงชิ้นละ 20-100 บาท แต่ถ้ามาเรื่อยๆ มาทุกวัน รายจ่ายก็มากตามไปเช่นกัน
11.เครื่องดื่มที่มีราคาแพงเกินความจำเป็น
รสนิยมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อันนี้เราเข้าใจ บางคนชอบกาแฟพรีเมี่ยมแก้วละ 50-100 บาท หรือบางคนชอบดื่มชาไข่มุกแก้วละ 50-60 บาท ถ้าเรามีเงินเหลือใช้มากพอไม่เดือดร้อนใคร
ก็คงไม่แปลก แต่ถ้าเรามีเงินน้อย รายได้หดหาย เราอาจจะลองหันมาดื่มกาแฟราคาถูกลงแก้วละ 25-40 บาท หรือชานมไข่มุกแก้วละ 20-30 บาท และลดปริมาณ
เหลือแค่วันละ 1 แก้ว อาจไม่ถูกใจเรามากนักแต่ก็ช่วยลดภาระรายจ่ายเราได้
12.รายจ่ายที่เกิดจากการผ่อนสินค้า
เมื่อไม่มีเงินสด ไม่มีเงินก้อน ถ้าต้องการซื้อสินค้า ก็ต้องใช้ระบบการผ่อนโดยเฉพาะการผ่อนผ่านบัตรเครดิตต่างๆ ที่มีโปรโมชั่น 0% กี่เดือนก็ว่ากันไป ในช่วงแรกก็แฮปปี้ดีใจกับการได้สินค้าใหม่
แถมบางทียังไม่ต้องเริ่มผ่อน แต่เมื่อถึงกำหนดผ่อนคราวนี้ ก็คือการเพิ่มภาระรายจ่ายให้มากขึ้น บางคนผ่อนสินค้าหลายชนิดพร้อมกันยิ่งทำให้มีรายจ่ายมากขึ้น
ทางที่ดีคือเลือกผ่อนเลือกซื้อสินค้า ที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ เท่านั้น อะไรที่ยังไม่จำเป็นก็อย่าเพิ่งไปผ่อนซื้อมา
13.รายจ่ายจาก บั ต ร เ ค ร ดิ ต
ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ มักมีบัตรเครดิตกันคนละ 1-2 ใบอย่างน้อย ข้อดีของการมีบัตรเครดิตคือเราสามารถ กดเงินสดมาใช้ก่อนได้ แต่ก็หมายความว่าเราจะเป็นหนี้ทันที
หากเราบริหารจัดการไม่ดีหนี้จากบัตรเครดิตจะกลายเป็นดินพอกหาง ห มู และคนที่จะ แ ย่ ก็คือตัวเรา ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นอย่าใช้บัตรเครดิตเพื่อให้เรามีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น
14.การ เ สี่ ย ง โชค
บางคนมีค่าใช้จ่ายต่อเดือน ในการ เ สี่ ย ง โชคสูงหลายพันบาทต่อเดือน โดยมีเหตุผลคือต้องการจะถูกรางวัล แต่ถ้าไม่ถูกก็จะหลายเป็นเงินที่หายไปในทันที
การ เ สี่ ย ง โชคเป็นเรื่องที่เราทำได้แต่ไม่ควรให้มากเกินไป ควรใช้จ่ายในส่วนนี้น้อยๆ เช่นงวดละ 1 ใบ และไม่ควรเล่นการ พ นั น อื่นๆ เพราะจะทำให้มีรายจ่ายมากขึ้นและโอกาสที่จะได้ไม่คุ้มเสียนั้นมีสูง
15.ซื้อสินค้าลดราคา
คำว่าสินค้า ลดราคาในที่นี้เราโฟกัส ไปที่พวกเสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องประดับ หรือแม้แต่อุปกรณ์จิปาถะต่างๆ ที่คนขายใช้กลยุทธ์ลดราคามาดึงดูดใจเรา
แต่เชื่อหรือไม่ว่าสินค้าบางอย่างเรายังไม่จำเป็นต้องใช้ ไม่จำเป็นต้องมี หรือบางที เราก็มีสินค้าเหล่านั้นอยู่แล้ว แต่เพราะคำว่าลดราคาก็ทำให้เราต้องเสียเงินซื้อสินค้าเหล่านี้มาเก็บไว้โดยไม่จำเป็น
ขอขอบคุณ t h a i s m e s c e n t e r