Home ข้อคิดสอนใจ 12 วิธีบริหารเงิน ช่วยมีเก็บ มีกินถึงสิ้นเดือน..แบบไม่ขัดสน

12 วิธีบริหารเงิน ช่วยมีเก็บ มีกินถึงสิ้นเดือน..แบบไม่ขัดสน

9 second read
0
372

1. เศษเหรียญมีค่าต้องใช้ให้คุ้ม

ยอมรับมาซะดี ๆ เถอะว่าต้องมีหลาย ๆ คน ไม่ชอบการพกเหรียญให้หนักกระเป๋า แต่อย่าลืมนะ ว่าเหรียญเหล่านั้นก็คือเงินเหมือนกัน ดังนั้น อย่าปล่อยเหรียญทิ้งไว้โดยไม่ได้ใช้ค่ะ

เหรียญทุกเหรียญมีค่า ไม่ว่าจะเหรียญบาท เหรียญสลึง ถ้าไม่อยากหนักกระเป๋าก็แค่นำไปแลกที่ธนาคาร แค่นี้ก็ได้ธนบัตรออกมาใช้สบายใจแล้ว

2. ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย

วิธีการประหยัดเงินสุดคลาสสิก ที่ได้ผลเสมอ การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เป็นวิธีที่จะทำให้เรารู้ว่าในแต่ละเดือนเรา ได้รับเงินมาเท่าไรและจ่ายเงินไปเท่าไร มีค่าใช้จ่ายใดที่เกินความจำเป็นบ้าง

นอกจากจะช่วยเพลา ๆ การใช้เงินของเราลงได้แล้ว ยังสามารถช่วยให้เราประมาณการใช้เงินของเรา ในเดือนถัดไปได้อีกด้วย ได้ประโยชน์หลายต่ออย่างนี้ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมวิธีประหยัดเงินนี้จึงได้รับความนิยมที่สุด

3. งดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

ค่ากาแฟ ขนมหรือเสื้อผ้าที่ซื้อ มาแต่ไม่มีทางได้ใส่ ค่าใช้จ่ายพวกนี้ เป็นความฟุ่มเฟือยที่ควรจะตัดทิ้งอย่างยิ่ง ลองคิดดูสิว่าวัน ๆ หนึ่งคุณดื่มกาแฟแก้วละ 50 บาท รวมทั้งเดือน จะเป็นเท่าไรแล้ว เราต้องเสียเงินไปเท่าไร หรือโดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ชอบช้อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจ

หันกลับมาดูสิว่าสิ่งที่คุณซื้อมาจำเป็นหรือเปล่าคุ้มค่าหรือไม่ หรือแค่เพียงสนองความต้องการ ของตัวเองเท่านั้น แม้นั่นจะเป็นความสุข ที่คุณได้รับจากการซื้อของที่ถูกใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังไงการมีเงินเหลือใช้มากขึ้นก็ดีกว่าใช่ไหมล่ะ

4. อย่าอายกับการซื้อของลดราคา

ป้ายลดราคา คือสวรรค์ ของใครหลาย ๆ คน แต่สำหรับบางคน ก็ยังแอบรู้สึกอายที่ต้องไปซื้อของลดราคา ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วเป็นวิธีการประหยัดเงินที่ดีอย่างหนึ่ง

แต่ก็ไม่ใช่ว่าเห็นป้ายลดราคาแล้วจะพุ่ง เข้าใส่อย่างเดียวนะ ตั้งสติและซื้อเฉพาะ ของที่จำเป็นเท่านั้น ถ้าทำได้ก็ลดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยเชียวล่ะ

5. เลือกซื้อของที่คุณภาพไม่ใช่ราคา

บางคนอาจจะคิดว่าการเลือกซื้อ ของที่ราคาถูกกว่าและคุณภาพน้อยลงหน่อยน่า จะช่วยเซฟเงินได้บ้าง แต่ถ้ามาเทียบกันจริง ๆ แล้ว การซื้อของที่มีคุณภาพดีแต่ราคาเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย ย่อมคุ้มค่ากว่านะไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือของใช้ต่าง ๆ

เมื่อมีคุณภาพที่ดีกว่า ย่อมมีอายุการใช้งานที่นานกว่าอยู่แล้ว ฉะนั้นแทนที่จะมองเรื่องราคา หันมามองที่คุณภาพจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังหากของใช้ที่ซื้อมาเกิดพังแล้วค่าซ่อมแซมแพงกว่าตอนที่ซื้อมา

6. ต่อราคาบ้างก็ได้

รู้หรือไม่ว่าแม่ค้าบางร้าน ก็ตั้งราคาเผื่อ ต่อให้กับลูกค้า เอาไว้แล้ว ของบางชิ้นที่เราเห็นว่าแพงที่จริงแล้วอาจจะลดราคาลงได้อีกยิ่ง

ถ้าหากเป็นแม่ค้าบางคนที่กล้าได้กล้าเสียยอมลดราคาให้คุณแบบ แทบไม่เอากำไรด้วยละก็ ถ้าไม่ลองต่อราคาสักหน่อยแล้วจะเสียดายนะจะบอกให้

7. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารนอกบ้าน

การรับประทานอาหารนอกบ้านถึงจะสะดวก แต่ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงไม่เบา เพราะนอกจากราคาอาหารแล้ว ร้านอาหารก็ต้องบวกค่าภาษี บวกค่าบริการ บวกค่าแก๊ส ค่าแอร์ในร้าน โอ๊ย…อีกสารพัดอย่างที่นึกได้

แล้วเราจะยอมเสียค่าใช้จ่ายเหล่านั้นไปทำไม ในเมื่อเราสามารถ เก็บออมส่วนนั้นไว้ได้ ลองห่อข้าวกล่องไปรับประทาน ตอนกลางวัน หรือรีบกลับบ้านมารับประทานอาหารเย็น ที่บ้านทุกวันดูสิ รับรองว่าเหลือเงินเก็บมากขึ้นแบบเห็น ๆ

8. จำกัดการใช้เงินของตัวเองในแต่ละวัน

อาจจะเป็นวิธี ที่เคร่งครัดไปนิด แต่ก็เป็นการฝึกวินัยการใช้เงินที่ดี กำหนดไปเลยว่าเราต้อง จะใช้วันละเท่าไร โดยในเงินจำนวนนั้นอาจจะรวมค่าเดินทาง ค่าอาหารและอาจจะพอให้มีเหลือกินขนมนมเนยอีกนิด

แบ่งเงินที่ต้องใช้ในแต่ละวันใส่ถุง หรือใส่ซองเอาไว้ หยิบไปวันละซอง และไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามใช้ เกินกว่านี้ถ้าทำติดต่อกันได้สัก 1 เดือน นิสัยในการใช้เงินของคุณเปลี่ยนแน่นอน

9. เช็กราคาก่อนซื้อ

สิ่งของที่เราคิดว่า ซื้อมาในราคาย่อมเยา บางครั้งอาจจะแพงกว่า บางที่โดยที่ไม่รู้ตัว ฉะนั้นถ้าไม่อยากจะเสียส่วนต่างของราคาไปง่าย ๆ ควรเช็กราคาให้ดีก่อนที่จะซื้อโดยเลือกที่ดูแล้ว

การซื้อครั้งนั้นจะคุ้มค่าที่สุด แม้ว่าอาจจะไม่ถูกที่สุด แต่ถ้าหากเมื่อ เทียบกับค่าเดินทางหรือค่าขนส่งแล้วประหยัดได้มากกว่า ก็เลือกซื้ออันนั้นเลย ที่สำคัญ อย่าลืมดูที่คุณภาพด้วยนะ

10. ทำอาหารรับประทานเองสิ

สำหรับคนที่พอจะมีฝีมือปลายจวักอยู่บ้าง การทำอาหารรับประทานเอง ก็เป็นความคิดที่ดี นอกจากเราจะได้รสชาติอาหาร ที่ถูกปากเราแล้ว ก็ยังสามารถเลือกวัตถุดิบดี ๆ มาปรุงอาหาร แถมยังไงก็ถูกกว่าการไปซื้ออาหารสำเร็จรูปรับประทานข้างนอกแน่ ๆ

แต่ถ้าใครทำอาหาร ไม่เป็นจะลองฝึกทำก็ถือ เป็นการเพิ่มพูน ทักษะไปในตัว นอกเสียจากว่าคุณเป็นคน ที่ไม่ถนัดทำอาหารจริง ๆ ทำแล้วต้องเททิ้งตลอดแบบนี้อย่าทำเองเลยดีกว่า เดี๋ยวจะพาลทำให้เสียของเสียเงินยิ่งกว่าเดิม

11. ปลูกผักสวนครัวไว้ข้างบ้านก็ดีนะ

ข้อดีของการอยู่ในบ้าน ที่มีบริเวณ ก็คือสามารถปลูกผักสวนครัว เอาไว้รับประทานเองได้ ไม่จำเป็นต้องปลูกทุกอย่างที่คุณกินเลือกปลูกในสิ่งที่คิดว่าคุณ จะต้องได้ใช้อยู่บ่อย ๆ เช่น ใบกะเพรา พริก ใบมะกรูด มะนาว โหระพา หรือผักที่ปลูกง่ายไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มาก

แต่ถ้าใครอยู่คอนโดหรือหอพักก็ไม่ต้องเสียใจไป เดี๋ยวนี้มีวิธีสอน การปลูกผักแบบคอนโดให้ได้ลองไปทำตามอีกเพียบ ลองนำไปใช้ดู รับรองว่าลดค่าใช้จ่ายเรื่องอาหาร การกินลงได้แถมถ้าเหลือจากการเก็บไปรับประทานจะนำไปขายก็ได้รายได้เสริมอีกด้วยนะ

12. แบ่งเงินออมทันทีหลังได้รับเงินเดือน

แม้จะไม่ใช่การใช้เงิน อย่างประหยัดโดยตรง เสียทีเดียว แต่ก็เป็นวิธีที่ช่วยให้เราออมเงินได้ ไม่ต้องแบ่งเก็บคราวละมาก ๆ ออมเงินในปริมาณ ที่เราสามารถทำได้ โดยที่ไม่กระทบ ค่าใช้จ่ายของตนเองมากนักโดยอย่างน้อยก็ควรจะแบ่งไว้ออมประมาณ 5-10% ของเงินที่ได้รับในแต่ละเดือน

ซึ่งเงินก้อนนี้หากคุณไม่ตบะแตก หยิบออกมาใช้เสียก่อนก็จะกลายเป็นเงินเก็บ ที่คุณภาคภูมิใจในอนาคตอีกทั้ง ถ้าหากเกิดเรื่องฉุกเฉิน อะไรจะได้ไม่ต้องไปหยิบยืมใคร ให้ลำบากใจยังไงล่ะ วิธีที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ต่างก็เป็นวิธีที่หลาย ๆ คน ทราบดีอยู่แล้ว

ดังนั้น การสร้างวินัยในการใช้เงินก็คงจะไม่ยาก หากคุณเริ่มต้นรัดเข็มขัด และใช้เงินอย่างประหยัดกันตั้งแต่วันนี้ ลำบากวันนี้แต่สบายในวันหน้านะ

ขอขอบคุณ m o n e y . k a p o o k

Load More Related Articles
Load More By adminyinde
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

12 อย่าง อย่าคิดโพสต์ลงโซเชียล เพราะอาจทำให้ชีวิตคุณแย่ลง

ทุกวันนี้ เราจะเห็นหลายๆ คน แ ช ร์ เรื่องราวต่างๆลงบน F a c e b o o k ของตนเองเต็มไปหมดเพร…