Home ข้อคิดสอนใจ 11 นิสัย อย่าคิดทำในที่ทำงาน เพราะจะไม่มีใครชอบคุณ

11 นิสัย อย่าคิดทำในที่ทำงาน เพราะจะไม่มีใครชอบคุณ

12 second read
0
684

เชื่อว่า ในทุกๆ ออฟฟิศ จะต้องมีอย่างน้อย ก็หนึ่งคนที่เป็น “ที่สุดของความเอือม” เข้ากลุ่มไหนวงแตกที่นั่น เพื่อนร่วมงานไม่ค่อยอยากจะเสวนาด้วย

1. โมโห ร้ า ย ความฉลาดทางอารมณ์ต่ำ

ต่อให้คุณมี IQ ฉลาดระดับ ไอน์สไตน์ ก็อาจไม่สามารถอยู่รอดในสนามธุรกิจได้ถ้าขาด EQ หรือ Emotional Quotient ซึ่ง ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเป็นไปอย่างราบรื่นผลเสียของการมีความฉลาดทางอารมณ์ต่ำ เป็นได้ตั้งแต่การสอบตกเรื่องทักษะการสื่อสาร

ทำ ล า ย ความน่าเชื่อถือของตัวคุณเอง ทำให้คนอื่นๆ รู้สึกไม่เชื่อมั่นในตัวคุณ ไปจนถึงเป็น พิ ษ ต่อธุรกิจ ส่งผลกระทบต่อทุกคน ที่คุณติดต่อด้วยคนที่มี EQ ดีจะสามารถ เข้าอกเข้าใจคนอื่น รู้ทันอารมณ์ของตัวเอง รวมถึงรับรู้ถึงอารมณ์และความต้องการของคนรอบข้างได้อย่างดี

ทำให้คุณรู้วิธีที่จะสร้างแรงจูงใจ ให้เพื่อนร่วมงานหรือพนักงาน ทำในสิ่งที่คุณต้องการ..ยิ่งมี EQ ดีมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสามารถสร้างทีมเวิร์กในฝันให้เกิดขึ้นได้เท่านั้น

2. มาจากดาว “ช่างแซะ”

เบื่อไหมเวลามี เพื่อนร่วมงาน ช่างแซะ แขวะมันซะทุกเรื่อง! แม้ว่า การจิกกัดเล็กๆ น้อยๆ อาจดูเป็นเรื่องสนุก เป็นความบันเทิงชนิด หนึ่งในออฟฟิศ แต่ถ้ามากเกินไปหรือล้ำเส้น คุณก็อาจกลายเป็นตัว น่ า รั ง เ กี ย จ ของคนอื่นๆ ได้ถ้าคิดว่า การเหน็บแนม จิกกัดหรือสร้างเรื่องตลกจากข้อด้อยของคนอื่น

จะทำให้คุณดูฉลาดแล้วล่ะก็ บอกได้เลยว่าคุณคิดผิด โดยเฉพาะคำพูดเชิงดูถูก เ สี ย ด สี ให้คนอื่นดู แ ย่ นั้น ขอให้เลิกเลยจะดีที่สุด! คนฉลาดๆ เขาไม่ทำกันแบบนี้ เพราะยิ่งว่าคนอื่นมากเท่าไหร่ คุณก็ดู แ ย่ มากขึ้นเท่านั้นเลิกนิสัยนี้เสีย แล้วลองดูใหม่ปฏิบัติต่อทุกคนด้วยดี มีมารยาท เคารพคนอื่น

และบังคับใจตัวเองที่คันปากอยากจะแซะคนอื่นให้ได้ เอาความครีเอทีฟ ในการช่างแซะไปหาวิธีพูดจาให้สร้างสรรค์จะดีกว่า

3. ไม่รู้จัก “ยืดหยุ่น”

การรู้จัก คิดวิเคราะห์อะไรๆ ได้ด้วยตัวเองรวมถึงการเปิดรับ คำแนะนำ ติชมจากคนอื่นๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ จะช่วยให้คุณสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง ที่ไม่คาดคิดได้แม้ ว่าการทำตามแผนที่วางไว้จะเป็นสิ่งจำเป็นต่อธุรกิจ แต่ถ้าคุณเข้มงวดหรือเถรตรงจนเกินไปไม่ว่าจะเป็นความคิด ความเชื่อ

จนถึงการตัดสินใจใดๆ มันก็จะทำให้ “ตัวเลือก” ของคุณมีน้อยเกินกว่าจะปรับเปลี่ยนได้ทันสถานการณ์ แน่นอนว่า มันย่อมส่งผลเสียต่อธุรกิจของคุณองค์กร ที่ประสบความสำเร็จในบางครั้งก็ต้องมีความยืดหยุ่น

โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ในวิกฤติก็อาจพลิก เป็นโอกาสได้ ถ้าคุณสามารถสร้างสรรค์โซลูชั่นใหม่ๆ ขึ้นมาได้

4. สัญญาไม่เป็นสัญญา

ใครที่รู้ตัวว่า เป็นคนเรื่อยเฉื่อยชอบผัดวันประกันพรุ่ง หรือรับปากอะไรแล้วทำไม่ค่อยจะได้ตามนั้น ขอให้รู้ว่า คุณกำลังดิสเครดิต ตัวเองลงมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะ ถ้าคุณเป็นผู้นำองค์กรด้วยแล้ว พฤติกรรมแบบนี้จะทำให้ใครๆ ต่างก็ไม่เชื่อถือคุณ

ถ้าอยากจะให้ทุกๆ คนยอมรับหรือเชื่อถือในตัวคุณ สิ่งพื้นฐานสุดๆ ก็คือ สัญญาอะไรไว้ก็ต้อง ทำตามที่พูด เมื่อนั้นคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน จนถึงลูกค้าก็จะเชื่อมั่นในตัวคุณ

5. ไม่รู้จักอดทนเอาเสียเลย

หนึ่งในตัวแปรที่จะส่งผล ให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลวนั้น หัวใจสำคัญก็คือ การรู้ว่าตอนไหนควรจะกระโดด หรือตอนไหนควรจะตั้งหลัก ให้มั่นถึงแม้ว่า ความแอ็คทีฟ กระตือรือร้นจะเป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องรู้หรือเลือกจังหวะให้ถูกกับสถานการณ์ได้ด้วยโดยเฉพาะถ้าจะต้องตัดสินใจอะไรสักอย่าง

คุณก็ควรตั้งสติ วิเคราะห์และเข้าใจ เงื่อนไขต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อตัดสินได้ อย่างเหมาะสมทริคก็คือ ให้ลองถอยกลับมาตั้งหลักแล้วทบทวน อย่างรอบคอบมีความอดทนในการพิจารณาภาพรวมที่ใหญ่กว่า ซึ่งถ้าคุณใจร้อน หรือด่วนตัดสินใจโดยไม่คิดให้ถี่ถ้วน ก็อาจส่งผลเสียใหญ่หลวงตามมาได้

6. มนุษย์เพอร์เฟคชั่นนิสต์ ยอมไม่ได้ ถ้าเห็นอะไรไม่เป็นอย่างที่คิด

สำหรับมนุษย์เงินเดือน ทั้งหลายที่บ่นโอดโอย ว่างานหนัก ลองนึงถึงหน้าบอสสุดที่รัก แล้วคิดถึงข้อดีอื่นๆ ของเขาดู ถ้าบอสของคุณ ไม่ใช่ประเภท บ้ า อำนาจ ต้องการคอนโทรลทุกสรรพสิ่งให้เป็นไปอย่างที่ใจคิด ก็ต้องบอกเลยว่า คุณยังโชคดีกว่าอีกหลายคน มากนักในทางกลับกันคุณบอสทั้งหลาย

ก็ขอให้ลองทบทวนตัวเองดูสักหน่อยว่า คุณเป็นนาย ประเภทไหน คุณยอมรับได้หรือไม่ ถ้าเห็นอะไรๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด หรือไม่เพอร์เฟคต์อย่างที่ใจอยากให้เป็น ถ้าคุณเห็นแล้วรับไม่ได้ จนถึงขั้นหงุดหงิดสุดๆ แล้วล่ะก็..คงจะถึงเวลาที่คุณต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง ทำใจยอมรับกับอะไรๆ ที่ไม่ได้เป็นไปตามแผนดูบ้าง

7. ใจเขาใจเราคืออะไร.. ไม่รู้จัก!

สำหรับใครที่ชอบนึกดูถูก มองไม่เห็นหัวใครหรือพูดถากถาง คนอื่นบ่อยๆ จนติดเป็นนิสัย ขอบอกให้รู้เลยว่า คุณกำลังทำสิ่งที่ แ ย่ และ น่ า รั ง เ กี ย จ มากในความเห็นของคนอื่น หนำซ้ำพฤติกรรมแบบนี้ยังอาจส่งผลไปถึงการ บ่ อ น ทำ ล า ย องค์กรเลยก็ได้นะ!

นิสัยปากเสียทำให้คุณดูเป็นคนเกรี้ยวกราดไม่น่าเข้าใกล้ ในทางกลับกัน การรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้จักเข้าอกเข้าใจคนอื่น ก็จะดึงดูดให้ใครๆ ก็อยากเข้าหาคุณ เพราะมันทำให้พวกเขารู้สึกดี รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าถ้าเป็นลูกน้อง

เขาจะยอมทำงานถวายหัวให้กับคุณ หรือถ้าเป็นลูกค้า เขาก็จะรู้สึกดีที่คุณใส่ใจ และอยากกลับมาใช้บริการบ่อยๆ จนกลายเป็นท็อปแฟนของคุณได้อย่างไม่ยาก

8. ใจแคบเท่าพุงมด

ในสถานการณ์ที่เกิด “ความผิดพลาด” คุณมักจะได้เห็นตัวตน ที่แท้จริงของใคร บางคนเสมอคนบางคนก็มักจะชี้นิ้วใส่คนอื่นเวลามีอะไรผิด แล้วเขาก็มัก จะมีคำตอบให้กับทุกเรื่อง ที่สำคัญคือเชื่อแบบผิดๆ ว่าความคิดของตัวเองถูกเสมอ และไม่ค่อยจะยอมฟังใครซึ่งมันน่าจะดีกว่า

ถ้าคุณจะยอมเปิดใจรับฟังคนอื่นบ้าง เพราะการได้ถกเถียง รับฟังความเห็นกันมันสามารถสร้างทีมเวิร์กที่ดีได้ ถึงแม้ว่า บทสรุปในตอนท้ายไอเดียของคุณจะยังเป็นทางดีที่สุดก็ตาม

9. หงุดหงิด ขี้บ่น

ไม่มีใครชอบคนที่มองอะไร ก็เห็นแต่เรื่อง แ ย่ ๆ โดยเฉพาะถ้าเห็นแล้วก็มีแต่บ่น ก็จะยิ่งทำให้คนรอบข้างรู้สึก แ ย่ ไม่อยากจะทำหรือพัฒนา แก้ไขให้อะไรๆ ดีขึ้น

ถ้าคุณมัวแต่หมดพลังงานไปกับการบ่นหรือคร่ำครวญ นั่นหมายถึง คุณเอาแต่เติม พลังลบให้กับตัวเอง และในขณะเดียวกัน คุณก็กำลังทำให้ไม่มีใครอยากเข้าใกล้คุณอีกด้วย

10. บ้ า อำนาจขั้นสุด!

สำหรับผู้บริหาร ขอให้ทบทวนตัวเองสักหน่อยว่า.. คุณเป็นนายประเภท “ต้องทำตามที่บอกเท่านั้น” หรือไม่ ? ..ถ้าใช่ ก็ขอให้รู้ไว้ตรงนี้เลยว่า คุณกำลังปล่อย พิ ษ ร้ า ย ขั้น รุ น แ ร ง แก่องค์กรเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อไหร่ที่องค์กรขับเคลื่อนด้วย “ความกลัว” ไม่ว่าจะกลัวมีความผิด กลัวถูกตำหนิกลัวถูกหักเงินเดือน

กลัวโดน ป ร ะ จ า น หรืออะไรก็ตามแต่ มันไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่อน โดยเฉพาะถ้าเทียบกับการขับเคลื่อนองค์กร ด้วยพลังบวก ที่ใครๆ ก็อยากแสดงความคิดเห็น อยากทดลองทำอะไรใหม่ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าถ้าทำพลาดไปแล้วจะโดนด่า ความกระตือรือร้นของพนักงานย่อมต่างกันอย่างแน่นอน

แม้ว่ามันจะง่ายเวลาจะสั่งหรือคอนโทรลอะไร ๆ โดยใช้ “ความกลัว” เป็นแรงขับ แต่คุณก็ต้องแลก กับการทำให้องค์กรไม่มีชีวิต ไร้ความคิดสร้างสรรค์ทุกคนอยู่อย่าง ห ว า ด ร ะ แ ว ง กลัวว่าถ้าทำผิดแล้วจะโดนดุ..องค์กรประเภทนี้ ไม่มีทางสร้างอะไรดีๆ ขึ้นได้อย่างแน่นอน!

11. หลงตัวเองสุดขอบโลก

ทราบหรือไม่ว่า คนที่หลงตัวเองนั้น ถือเป็นภัยขั้นสุด ต่อองค์กรเลยก็ว่าได้ เพราะอีโก้ที่คับอกจะทำให้คุณ “มั่น” ในตัวเองจนไม่ยอมฟังความเห็นต่างจากใครหน้าไหน

การเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลไม่เพียง ทำให้เสียโอกาสที่จะได้สร้างสรรค์ สิ่งใหม่แล้ว คุณยังขยี้ “ใจ” ที่อยากจะทำงานของคนอื่นๆ ลงจนป่นปี้ !

..อ่านมาถีงตรงนี้ ถ้าใครทบทวนตัวเองแล้วคิดว่า ตรงกับตัวเองอยู่บ้าง ก็ขอให้เลิกนิสัยเสียๆ เหล่านี้ให้ได้

ก่อนที่อะไรๆ จะ แ ย่ จนเกินแก้ยิ่งโดยเฉพาะผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการ ทั้งหลายอย่าคิดว่าเป็นเจ้าของแล้วจะทำอะไรก็ได้

ลองทบทวนตัวเองและเปลี่ยนเสียก่อนที่ธุรกิจพังคามือ เพราะไม่ยอมเลิกพฤติกรรม แ ย่ ๆ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!

ขอขอบคุณ m a r k e t i n g o o p s

Load More Related Articles
Load More By adminyinde
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

12 อย่าง อย่าคิดโพสต์ลงโซเชียล เพราะอาจทำให้ชีวิตคุณแย่ลง

ทุกวันนี้ เราจะเห็นหลายๆ คน แ ช ร์ เรื่องราวต่างๆลงบน F a c e b o o k ของตนเองเต็มไปหมดเพร…