เชื่อได้ว่าในยุคสมัย สังคมเราในปัจจุบันนี้ ล้วนพบเจอผู้คนที่หลากหลาย หลากหลายในที่นี้หมายถึง ต่างที่มา ต่างครอบครัว ต่างนิสัย ทัศนคติ ความประพฤติอะไรก็ตามแต่
ล้วนมีความแตกต่างกันออกไปทุกคนคงน่าจะนึกถึงกันอยู่แล้วว่าถ้าหากเราเคยอยู่ร่วมกับคนอื่น ก็มักที่จะตั้งคำถามว่า ทำไมเขาเป็นแบบนี้ ทำไมเค้านิสัยไม่ดีแต่หน้าที่การงานเขาดีมีหน้ามีตาในสังคมใหญ่
เป็นเพราะอะไรกัน?ในมหาวิทย าลัยแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเน้นย้ำในเรื่องของประเด็น “ ทำไมคนที่ภาวะแ ย่ๆแบบนี้ถึงก้าวหน้าในหน้าที่การงาน…? ”
จากการเก็บสถิติ และ การรวบรวมข้อมูล ทำให้พบว่าสิ่งที่ไม่ดีของพวกเขาอาจจะไม่ชัดเจนนักในตอนแรก แต่พอพวกเขาเริ่มก้าวไปอยู่ในจุดที่สูงขึ้นพวกเขาก็พร้อมเปิดเผยตัวตน
และ แ พ ร่ ก ร ะ จ า ย มลภาวะ แ ย่ ๆได้อย่างเต็มกำลัง หรือ ในอีกความหมายคือ แกล้งทำเป็นดีในตอนเริ่มแรก ประจบนายเก่ง แต่พอได้ขึ้นเป็นใหญ่ก็ใช้อำนาจอย่างเต็มที่ ( เหมือนเก็บกดมานาน )
โดยที่ผู้ใหญ่ในอ ง ค์ก รหรือผู้มีอำนาจจะไม่ค่อยสังเกตเห็นเสียด้วยซ้ำ และเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่หลายครั้ง ทำไมเหล่าหัวหน้าดูจะเป็นคนที่มีนิสัยไม่ค่อยดีสักเท่าไร
ที่สำคัญ คนแบบนี้มีความกระหายในหน้าที่การงานอย่างสูง ส่งผลให้พวกเขาอยู่ในจุดที่สูงกว่าคนอื่นได้โดยง่าย เพราะ มีแรงผลักดันอย่างมากที่อยากจะมีอำนาจอยู่ในมือ
ถ้าจะให้เปรียบก็เหมือนเด็กเนิร์ดเรียนเก่ง แต่ห ว งวิชา หรือ ไม่อยากให้เพื่อนลอกการบ้าน เป็นคนที่มีปมในใจ ซึ่งเป็นคนประเภทเดียวกันกับคนที่เรากำลังกล่าวถึงคนเหล่านี้ไม่ค่อยมีความอ่อนน้อมถ่อมตน
ทำให้หลายการตัดสินใจของพวกเขาจะเต็มไปด้วย ความเห็นแก่ตัว บ้ าอำนา จ หรือ เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ และ แน่นอนว่ารวมถึงการโ กห กเพื่อผลประโยชน์ด้วย
คุณอาจจะคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้พวกเขาไม่เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานใช่ไหมล่ะ แต่น่าเศร้าผลลัพธ์อาจตรงกันข้าม ในบางครั้งรางวัลของนิสัย เ ล ว ร้ า ย แบบนั้น
คือ เงินเดือนที่สูงขึ้น รวมถึงการได้เลื่อนตำแหน่งอีกด้วยผู้ที่ศึกษาเรื่องนี้ยังระบุต่ออีกว่าบุคคลเหล่านี้มักจะมีความสามารถในการจัดการการเมืองในที่ทำงานได้ดีซึ่งมันสามารถสร้างความประทับใจ
ให้คนระดับเจ้านายได้อย่างดีเยี่ยม และ ในอีกนัยหนึ่งสำหรับเหล่าหัวหน้าที่มีนิสัยใกล้เคียงกัน ก็ยิ่งชื่นชมเหล่าพนักงาน ที่มีบุคลิกคลับคล้ายคลับคลากับตัวพวกเขาเองแต่คนที่เป็นคนดีก็อย่าเพิ่งน้อยใจไป
พวกเจ้านายก็รักคุณเหมือนกัน แต่เป็นเหมือนมุมมองความชอบที่แตกต่างกัน ประมาณว่า สำหรับคนที่เป็นเจ้าคนนายคนแล้วคน เ ล ว ก็ชอบ คนดีก็ชอบ แต่ชอบที่สุดก็คนที่ทำงานให้เกิดผลประโยชน์ต่อองค์กรสูงสุด
องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องมีคนเหล่านี้ไว้ ในแง่ของการลดเงินเดือน การเค้นความสามารถ พนักงานคนอื่น พวกเขามีศักยภาพในการต่อรอง สามารถเคลียร์งานได้เร็ว ต่อสู้กับสหภาพได้
ถึงแม้จะพวกเขาจะชอบ สร้างความกดดัน ความไม่สบายให้เพื่อนร่วมงานก็ตาม…ถ้าจะให้
สรุปง่ายๆ ก็คือ คนพวกนี้ จะมีทักษะด้านการเข้าสังคมสูง กับคนที่ตำแหน่งสูงกว่า ที่สำคัญองค์กรอาจจะเห็นว่าอะไรราบรื่นไปอาจจะไม่ใช่เรื่องดี การมีคนพวกนี้อยู่อาจจะช่วย ก ร ะ ตุ้ น การทำงานให้องค์กร
มีประสิทธิภาพและไม่เรียบเฉยแล้วตัวคุณล่ะ เคยเจอกับเหตุการณ์ เหล่านี้ไหม แล้วตัวคุณมีวิธีในการจัดการอย่างไรเมื่อตกอยู่ในเหตุการณ์เหล่านี้
ขอขอบคุณ ภูมิปัญญา , p o s t s a r a . c o m.