Home ข้อคิดสอนใจ หากอยากให้เงินงอกเงย ต้องเปลี่ยน 7 นิสัยการใช้เงิน

หากอยากให้เงินงอกเงย ต้องเปลี่ยน 7 นิสัยการใช้เงิน

4 second read
0
206

เคยสังเกตตัวเอง บ้างไหม เงินเดือนเพิ่มขึ้นทุกปี โบนัสได้ฟรีๆ ก็ไม่เคยขาด แต่ทำไมตัวเลขบัญชีเงินเก็บ ไม่กระเตื้องขึ้นเลย บางคนบอกว่าเงินเดือนเยอะขึ้น งานที่ต้องรับผิดชอบก็มากขึ้น

พบปะผู้คนมากขึ้นจึงมีค่าใช้จ่ายด้านสังคมสูงขึ้น เงินจึงไม่เหลือเก็บ ข้ออ้างนี้ก็พอฟังได้ แต่ไม่ถูกต้องทั้งหมดเพราะการเก็บเงิน รั ก ษ า เงินนั้น เป็นทักษะที่ต้องฝึกเป็นข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข

โดยทั่วไปคนเรามีข้อผิดพลาด เรื่องการไม่สามารถ รั ก ษ า เงินไว้ได้ ดังนี้

1. ออมเงินไม่เป็น

คนทั่วไป เมื่อทำงานหาเงิน มาได้แล้ว ก็จะใช้ ใช้ ใช้ เช่น ใช้กิน ใช้เที่ยว ใช้ค่ารถ ใช้ค่าบ้าน ใช้ค่าโทรศัพท์ ใช้ค่าเสื้อผ้า อาหาร ย า รั ก ษ า โ ร ค ใช้จนหนำใจ ถ้าเหลือค่อยเอามาเก็บ คือคิดถึงเรื่องเก็บออมเงินเป็นลำดับ

สุดท้าย ต้องเปลี่ยนวิธีใหม่ เมื่อเงินเดือนออกหรือทำงานได้เงินมาก้อนหนึ่งสิ่งแรกเลยคือ แบ่งเงินนั้นมาเก็บไว้ก่อนส่วนหนึ่งจะมากจะน้อยก็ช่าง ขอให้ได้เก็บเมื่อเรารู้จักเก็บก่อนใช้ ทำติดต่อกันทุกๆ เดือนก็จะติดเป็นนิสัย ป้องกันการรั่วไหลของเงินได้หนึ่งทาง

2. ไม่คิดก่อนใช้

เงินทองของหายาก เมื่อจะใช้จ่ายอะไรลงไปต้องคิดให้คุ้ม ข้าวของบางอย่าง เราซื้อด้วยอารมณ์ ไม่ได้ซื้อด้วยเหตุผลและของที่ซื้อด้วยอารมณ์ราคาจะสูงเวอร์เมื่อระยะเวลาผ่านไป อารมณ์ที่เคยผูกกับของสิ่งนั้นเจือจางลง มันก็จะถูกวางเกะกะ กลายเป็นของที่ไร้ค่า

จะหาประโยชน์ใช้สอยก็ไม่ค่อยได้เพราะตอนซื้อ เราไม่ได้คำนึงถึงความคุ้มค่า ในการใช้สอยเป็นหลัก จากนี้ไป หากจะซื้ออะไร อย่าใช้ใจ ให้ใช้ ส ม อ ง เราจะได้ข้าวของที่คุมกับค่าเงินทอง

3. ไม่มีอาชีพเสริม

ถ้าเราไม่ใช่นักธุรกิจ หรือมีกิจการใหญ่โต หรือไม่ได้ทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เป็นเพียงพนักงานกินเดือนตัวตนเล็กๆ ในบริษัทธรรมดาๆ ก็ต้องเจียดเวลามาหาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้เพราะสมัยนี้อะไรๆ ก็ไม่แน่นอน จู่ๆบริษัทจะเจ๊งหรือล้มละลายก็เป็นไปได้ง่ายๆ ไม่ทันตั้งตัว

เพื่อกันไว้ดีกว่าแก้ เราต้องมีงานที่สอง ที่สามทำเผื่อไว้บ้าง ลองดูว่าเรามีความถนัดหรือชอบอะไรเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่า ลองหยิบจับหรือเข้ากลุ่มโซเชียลเพื่อหาลู่ทางทำกินเพิ่มเติมดู เพราะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น การมีอาชีพเสริม เป็นเกราะกันเหนียวไว้ก่อน ย่อมเป็นความคิดที่ไม่ขี้เหร่แน่ๆ

4. ไม่กระจายการลงทุน

บางคนโชคดี มีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่ง รู้จักลงทุนแต่ไม่รู้จัก กระจายการลงทุน คือรักชอบทอง ก็เอาเงินไปลงทุนทองคำเสียหมด หรือรักชอบหุ้นหรือกิจการใดๆเป็นพิเศษ ก็ทุ่มสุดตัวกะจะรวยทีเดียวกับทางนั้นให้ได้ ดูออกจะเป็นคนสุดโต่งเกินไปถ้าทุกอย่างไม่เป็นแบบที่คิดเงินเก็บก้อนนั้นก็จะจม

ทำประโยชน์อะไรไม่ได้ ดีไม่ดีขาดทุนเข้า เ นื้ อ เราต้องแบ่งเงิน กระจายลงทุนบ้าง สักสองสามกองหรือสองสามกลุ่มเผื่อเอาไว้ เพราะทุกอย่างมีรอบเวลาของมัน มีขึ้นมีลงเวลาได้อาจได้ไม่เยอะ เวลาโดนก็ไม่ เ จ็ บ ตั ว เฉลี่ยๆกันไป

5. ไม่ปรับตัว

เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยี ทำให้การดำรงชีวิตของคนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ค่าใช้จ่ายบางอย่างสามารถลดได้ ด้วยการใช้เทคโนโลยีช่วยและการงานของเรา ก็สามารถลดต้นทุนได้ด้วยการเอาเทคโนโลยีมาเสริม

ดังนั้น ต้องหมั่นติดตามข่าวสาร และความก้าวหน้า ทางเครื่องมืออุปกรณ์ในแวดวงการงานของเรา นำสิ่งที่เป็นประโยชน์มาปรับใช้ ก็จะสามารถช่วยเพิ่มกำไรและลดค่าใช้จ่ายได้

6. ไม่ยอม เ สี่ ย ง

ความ เ สี่ ย ง เป็นเรื่องดูน่ากลัว แต่ถ้าไม่ เ สี่ ย ง อะไรเลย เราอาจล้าหลังสู้คนอื่นไม่ได้ มีการ เ สี่ ย ง ดีๆ ที่เป็นประโยชน์ ถ้าได้มีโอกาสเรื่องความ เ สี่ ย ง มากขึ้น ก็จะสามารถมองหาโอกาส

และความ เ สี่ ย ง ที่คุ้มค่าได้แต่ก็ต้องประมาณตน ไม่ เ สี่ ย ง เกินกว่าที่ตนเองจะรับได้ เพราะถ้าพลาดอาจต้องใช้เวลานานในการฟื้นตัว แต่ถ้า เ สี่ ย ง แล้วได้ผล ก็จะสามารถก้าวกระโดดและย่นระยะเวลาได้เหมือนกัน

7. ไม่หลงคอยวาสนา

แม้บางคน จะมีโชคได้เงินได้งานง่ายๆ ฟรีๆ เห็นแล้วก็คิดว่า เราจะต้องเอาแบบเขาบ้าง แต่ในความเป็นจริง เรื่องโชคลาภวาสนาเป็นสิ่งไม่แน่นอน เราอาจมีโชคแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ถ้าหวังคอยให้โชคช่วย

มีหวังอด ต า ย เสียก่อนถ้าโชคมาตอนอายุ 60 เรามิต้องอดข้าว ถึงตอนแก่เลยหรือ ดังนั้น พึ่งตนเอง ทำงานไปตามหน้าที่ให้เต็มความสามารถ จัดการค่าใช้จ่ายและกินอยู่ให้พอดี สะสมไปความมั่งมีก็จะเกิดได้เอง

ลองปรับ 7 ไม่ ใน 7 ข้อนี้ ชีวิตเราจะดีขึ้นได้แน่นอน เงินทองจะงอกเงย เพราะเราฉลาดกิน ฉลาดใช้ ฉลาดออม

ยอม เ สี่ ย ง บ้าง มีรายได้หลายทาง พึ่งพาตนเองทำอย่าง เสมอต้นเสมอปลาย สุดท้ายจะร่ำรวยได้เอง

ขอขอบคุณ s a n o o k

Load More Related Articles
Load More By adminyinde
Load More In ข้อคิดสอนใจ

Check Also

12 อย่าง อย่าคิดโพสต์ลงโซเชียล เพราะอาจทำให้ชีวิตคุณแย่ลง

ทุกวันนี้ เราจะเห็นหลายๆ คน แ ช ร์ เรื่องราวต่างๆลงบน F a c e b o o k ของตนเองเต็มไปหมดเพร…