![](https://yindeeyindee.com/wp-content/uploads/2022/12/4-850x491.jpg)
1. มีการเรียนรู้ในที่ทำงาน
การพัฒนาทักษะการทำงานเป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการทำงานในทุกสาขาอาชีพ องค์กรที่ดีควรให้ความสำคัญกับวิธีการพัฒนาทักษะการทำงาน
ด้วยการจัดหาทรัพยากรการเรียนรู้ เช่น สื่อการเรียนรู้ อย่างห้องสมุด หรือคลังความรู้แบบออนไลน์ ตลอดจนการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพูนทักษะการทำงานให้แก่พนักงานอย่างสม่ำเสมอ
2. มีความเชื่อมั่นและไว้ใจ
ทำให้ได้ตามที่คุณสัญญาไว้ ซื่อสัตย์ต่อตัวเอง และ รั ก ษ า คำพูดของคุณ ประพฤติปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนในทีม ถ้าคุณทำผิดพลาด คุณก็ต้องยอมรับผิดอย่างสง่าผ่าเผย
และโทษลูกน้องที่ทำผิดพลาด เพราะการตัดสินใจที่มาจากตัวคุณเอง เมื่อพวกเขาเห็นตัวอย่างที่ดี จากผู้นำ พวกเขาจะเกิดความเชื่อมั่นและไว้ใจ
3. มีความรับผิดชอบ
คนทำงานทุกคนล้วนอยากเก่ง ในงานที่พวกเขาทำและพึ่งพาตัวเองได้ แต่ถ้าเขายังไม่เก่งพอ นั่นเป็นหน้าที่ของผู้นำที่ต้องชี้แนะให้พวกเขาสามารถแก้ปัญหา
และทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จได้ คุณต้องสอนงานพวกเขาอย่าง มีประสิทธิภาพและสม่ำเสมอด้วย รวมไปถึงการถามไถ่ว่าแก้ปัญหาไปแล้วยังไงบ้าง
หรือติดปัญหาอะไรหรือเปล่า สอนให้พวกเขาเรียนรู้ ที่จะแก้ปัญหาด้วยวิธีของพวกเขาเองครั้งต่อๆ ไป พวกเขาจะได้แก้ปัญหาได้
4. ความเคารพจากหัวหน้างาน
พนักงานหลายคน ไม่ค่อยได้ความเคารพ จากหัวหน้า ผู้นำที่ดีนั้น ไม่ควรมีความลับกับคนในทีม เพราะพวกเขาจะรู้สึกด้อยค่าและรู้สึกเหมือนเป็นคนนอก ควรปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างมืออาชีพด้วย
และไม่มองว่าพวกเขาด้อยกว่า ไม่ว่าจะในเชิงคุณวุฒิหรือวัยวุฒิเปิดเผย และซื่อตรงให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ คุณต้องสร้างทีมที่ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ใช่ผู้นำที่มีอำนาจเหนือกว่าเพียงผู้เดียว
5. สื่อสาร กันอย่างมีประสิทธิภาพ
การสื่อสารหรือการประสานงานที่ดี ระหว่างกันในการทำงานนั้นทำให้พนักงานทุกคนเข้าใจในงานของตน ยิ่งมีข้อมูลมากและชัดเจนเท่าไหร่ โอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดก็น้อยลงด้วยเท่านั้น
การสื่อสาร ที่ดีต้องเกิดขึ้นในทุกช่องทางไม่ว่า จะเป็นการประชุมทีม การสนทนาตัวต่อตัว การใช้โทรศัพท์ อีเมล วิดีโอคอล อื่นๆ อย่างไรก็ตาม ให้ระวังการสื่อสาร ที่ผิดวิธี
เช่น วิธีการส่งอีเมลหรือข้อความไม่เหมาะสมด้วย ดังนั้น ผู้นำทั้งหลายควรมองว่าเรื่องการสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญและละเลยไม่ได้
6. มีสิ่งที่คาดหวัง และเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจน
ใครๆ ก็ชอบ ความชัดเจนกันทั้งนั้นแหละ ดังนั้น ให้กำหนดบทบาทเป้าหมาย และหน้าที่ความรับผิดชอบให้พนักงานทุกคนได้เข้าใจอย่างชัดเจน อาจจะบอกตัวต่อตัว
หรือและบอกพร้อมกันทั้งทีม ย้ำชัดถึงเป้าหมาย ของทีมอย่างสม่ำเสมอ อาจเป็นรายเดือน รายไตรมาสหรือตลอดทั้งปี ไม่งั้นการทำงานอาจเกิดปัญหา
เพราะพนักงาน จะทำงานไปเรื่อย ๆ โดยขาดความเข้าใจในเป้าหมายนั่นเอง
7. การประสบผลสำเร็จ
จงให้ตำแหน่งงาน ที่เหมาะสมกับพวกเขา เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้ประสบความสำเร็จตามสายงานที่พวกเขาถนัดได้ ในอนาคตกำจัดอุปสรรค ในการทำงานและส่งเสริมพวกเขาอย่างเต็มที่
อย่าเปลี่ยนแนวทางหรือแผนการไปสู่เป้าหมายบ่อย ๆ โดยไม่พิจารณาให้รอบคอบ ละเลยกับผลการปฏิบัติงานที่ไม่ผ่านเกณฑ์ การประเมินหรือตั้งเป้าหมายโดยไม่ดูพื้นฐานความเป็นจริง
เพราะคนได้รับผลกระทบโดยตรงคือ พนักงานของคุณที่ต้องเจอกับภาวะความกดดันจากความไม่มั่นคงในแนวทางในการทำงานของผู้นำอย่างคุณ
8. การยอมรับและชื่นชม
เมื่อพนักงานได้รับการชื่นชม ในสิ่งที่พวกเขาทำมากเท่าไหร่พวกเขายิ่งมีแรงบันดาลใจ ในการทำงานให้ประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้นเอ่ยคำชมเมื่อพวกเขาทำงานได้ดี
ที่สำคัญคุณต้องให้ความสำคัญกับทีมไปพร้อม ๆกับการการชมเชยพนักงาน ที่ทำงานดีเด่นเป็นรายบุคคลการยอมรับและเห็นคุณค่าของพนักงานอย่างเท่าเทียมด้วย
9. ความก้าวหน้าในอาชีพ
พนักงาน จะตั้งใจทำงานมากขึ้น เมื่อเห็นว่าองค์กรมีสภาพแวดล้อมหรือทรัพยากรที่เอื้ออำนวย ให้พวกเขาสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่
มอบหมายงานให้พนักงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พูดง่าย ๆ ก็คือ “ ใช้คนให้ถูกงาน ” นั่นเอง
10. ความภูมิใจในงานที่ทำ
ทุกคนต่างก็อยากมีงาน ที่พูดได้อย่างเต็มปากว่า นี่คือ “งานที่ฉันภูมิใจ”การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน
จะทำให้พนักงานมีแรง ก ร ะ ตุ้ น ในการทำงาน หัวหน้าจึงควรสร้างรูปแบบการทำงานในเชิงบวก
เช่น การมีวัฒนธรรมองค์กร ที่เป็นกันเองหรือสร้างบรรยากาศการทำงานที่สนุกไปพร้อม ๆ
ขอขอบคุณ t h e-w a y o f l i f e