
1. ชีวิตสั้น อย่าทนกับงานที่ไม่ใช่
ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย ที่ไม่ให้เกียรติ เพื่อนร่วมงานที่ไม่ได้เรื่อง ความก้าวหน้าในงานที่ไม่มีที่ไป… แต่หลายคนก็ยังเลือกที่จะอดทน และปล่อยให้เวลาผ่านไป พอรู้ตัวอีกทีอายุก็ปาไปเลข 4 แล้วในขณะที่ความจริงแล้ว หลายคนที่ตัดสินใจหางานใหม่
ได้ตำแหน่งงานดี ๆ และก้าวหน้าไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ซึ่งปัจจุบันการหางานก็ง่ายกว่า แต่ก่อนมาก ยิ่งถ้าคุณทำงานในบริษัท แ ย่ ๆ หาใหม่ดีกว่าเดี๋ยวนี้แค่ ใช้เว็บไซต์คลิก ๆ หางานแป็ปเดียว ไม่กี่นาที ก็เจองานที่ถูกใจแล้ว
2. ความสำคัญของการเข้าสังคม
ในสมัย 22 – 23 หลังเรียนจบใหม่ ๆ คุณอาจมองข้ามการเข้าสังคมไป ยังยึดติดกับเพื่อนมหาวิทยาลัย และไม่อยากเริ่มต้นความสัมพันธ์ในสังคมใหม่ ๆ เพราะมันช่างยุ่งยากและน่าเบื่อ
แต่เมื่ออายุผ่านไป คุณจะรู้เลยว่า “ความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ในสังคมนั้นแสนสำคัญ เพราะมันจะทำให้คุณได้มิตรสัมพันธ์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นในเชิงธุรกิจ หรือการเริ่มต้นงานในสาขาอาชีพใหม่ ๆ”
3. ทุ่ม ร่ า ง ก า ย กับงาน ไม่คุ้มค่า
เคยมีคนกล่าว ว่า “หากบริษัทขาดคุณไป เค้าก็หาคนอื่น มาแทนคุณได้ แต่ถ้าครอบครัวขาดคุณไป ใครก็มาแทนที่คุณไม่ได้” เมื่อถึงวัยหนึ่ง คุณจะเริ่มตระหนักว่าการใช้ ร่ า ง ก า ย อย่างหนักหน่วงทำโอทีจนถึง 3 ทุ่ม
และกลับถึงบ้านเที่ยงคืน ทำให้ สุ ข ภ า พ คุณเสียไป แม้ไม่อาจบอกว่าเปล่าประโยชน์ เพราะงานที่คุณทำก็ทำให้คุณได้รับเงิน และประสบการณ์เป็นค่าตอบแทนแต่การทำงานหนัก เสีย สุ ข ภ า พ
และทุ่มเงินกับการ รั ก ษ า ตัวตอนแก่นั้น ช่างไม่คุ้มกันเสียเลยทางที่ดีควรแบ่งเวลาออกเที่ยวบ้าง ถ้าอยากประสบความสำเร็จ
4. โลกออนไลน์ ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต
พึงระลึกว่าโลกออนไลน์ คือโลก ที่แตะต้องไม่ได้จริง และสมาร์ทโฟนคือ สิ่งที่ทำให้คุณสูญเสียเวลาไปอย่างมหาศาล
ดังนั้น ถอยห่างจากมันบ้าง แล้วคุณจะพบว่าโลกภายนอกมีอะไรดี ๆ ให้เรียนรู้อีกเยอะ
5.จงอย่าหยุดเรียนรู้
การเรียนรู้แบบไม่สิ้นสุด ทำให้คุณพัฒนาตัวเอง ไปเรื่อย ๆ ในขณะที่การไม่เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมเลย
จะทำให้คุณกลายเป็นคนล้าสมัยและติดกับโลกเก่า ๆ ของตัวเอง การเรียนรู้จึงเป็นการเปิดโลกกว้างของคุณด้วย
6. การเปลี่ยนแปลงคือความดีงามอย่างหนึ่ง
หลายคนกลัวการเปลี่ยนแปลง และตระหนก กับความเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง แต่จริง ๆ แล้วการเปลี่ยนแปลง
คือ สิ่งดีงามเพราะมันทำให้คุณได้เรียนรู้ ก ร ะ ตุ้ น ศักยภาพในการพัฒนาตัวเองของคุณ และผลพลอยได้คือ คุณจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นในอนาคต
7. ไปคนเดียวอาจไปได้ไกล แต่ไปด้วยกัน “ไปได้ไกลกว่า”
เมื่อคุณอายุมากขึ้น จะรู้ว่าการทำงานเป็นทีม ทำให้งานเสร็จไวและมีประสิทธิภาพกว่าการทำงานคนเดียวมาก
ดังนั้น เมื่อหลายคนอยู่ในช่วงอายุระดับหนึ่งแล้ว ลืมไปเลย เรื่องฉายเดี่ยว
8. กังวลไปก็เท่านั้น
สิ่งที่จะ รั ก ษ า ความกลัวและความวิตก กังวลได้นั้นคือ การลงมือทำและความว่องไว ถ้าคุณมัวแต่เสียเวลาไปเพียงเพราะ ว่าคุณกำลังหวาดกลัว ที่จะทำตามแนวคิดนั้นๆ
มัวแต่พูดเพ้อเจ้อหรือรู้สึกกังวลว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร คุณจะไม่มีวันบรรลุเป้าหมายของคุณ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเอาชนะความวิตกกังวลและความกลัวเหล่านั้น
แล้วลงมือทำคุณจะพบว่าสิ่งที่คุณมัวแต่วิตกกังวล นั้นมันไม่มีอะไรเลย กังวลมากไปจะเป็น โ ร ค ซึ ม เ ศ ร้ า เปล่า ๆ
9. ความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ
เมื่อสมัยมัธยมปลายหรือมหาวิทยาลัย คนส่วนใหญ่มักจะกลัวความล้มเหลว กลัวจะติดเอฟ กลัวจะอกหัก กลัวจะทำงานออกมาไม่ดี กลัวทุกอย่างจนกระทั่ง ใช้ชีวิตไม่เต็มที่..แทนที่จะวิ่งไปสู่ความสำเร็จก็เลยหลายเป็นว่านั่งอยู่ที่เดิม ในคอมฟอทโซน
แต่เมื่ออายุได้เฉียดเลข 4 แล้วคนส่วนใหญ่ จะตระหนักได้ว่า ความล้มเหลวคือสิ่งที่ดี และเป็นโอกาส ที่จะได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ และจริง ๆ แล้ว ความล้มเหลวก็แค่ส่วนหนึ่งของความสำเร็จเท่านั้น
10. ความสุขคือระหว่างทาง ไม่ใช่เพียงจุดหมาย
หลายคน คิดเฝ้าฝัน ให้ไปถึงความสำเร็จเร็ว ๆ เพราะตัวเองจะได้มีความสุขเสียที แต่จริง ๆ แล้วความสุข ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความสำเร็จในตอนท้ายเท่านั้น
แต่ความสุข นั้นกลับเกิดขึ้นในระหว่างทาง เป็นความพึงพอใจ ที่ได้พยายามทำสิ่งต่าง ๆ และตระหนักในคุณค่า ของสิ่งต่าง ๆ ที่เรากำลังทำ
ขอขอบคุณ w o r k v e n t u r e